ลำพูน-มอดไม้ซัดทอดผู้ใหญ่บ้านสั่งตัดไม้ในเขตป่าชุมชน ถูก ตร.กก.4 บก.ปทส. นำกำลังบุกจับพร้อมของกลาง

ลำพูน-มอดไม้ซัดทอดผู้ใหญ่บ้านสั่งตัดไม้ในเขตป่าชุมชน ถูก ตร.กก.4 บก.ปทส. นำกำลังบุกจับพร้อมของกลาง

วันที่ 31 พฤษภาคม 2564  ตำรวจ กก.4 บก.ปทส. สนธิกำลังหลายฝ่ายบุกจับมอดไม้ลักลอบตัดในป่าชุมชน   สืบเนื่องด้วยได้รับเรื่องร้องเรียนว่า “มีบุคคลเข้าไปลักลอบตัดไม้ในเขตป่าของหมู่บ้านหนองสร้อย ตำบลมะกอก อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน ซึ่งประชาชนได้สงวนรักษาไว้ใช้ประโยชน์ร่วมกันและจะนำไปขึ้นทะเบียนเป็นป่าชุมชนของหมู่บ้าน โดยมีผู้นำของหมู่บ้านรู้เห็นเป็นใจให้ไปตัดโค่นไม้ดังกล่าวโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายอาญาของบ้านเมือง” จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการตรวจสอบปราบปรามจับกุมตามกฎหมาย

พ.ต.อ.ศานุวงษ์  คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปทส. จึงสั่งการให้ พ.ต.ต.ชานนท์ รัตนประทีป สว.ว.กก.4 บก.ปทส. ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยสั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษ กก.4 บก.ปทส.,ชุดปฏิบัติการสืบสวนปราบปรามประจำจังหวัดเชียงใหม่-ฮอด,ลำพูน เข้าทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่มีผู้ร้องเรียน นำกำลังไปบริเวณดังกล่าวพบ นายนิกูล ทุนกาศ อายุ 63 ปี อยู่บ้านหมู่ที่ 7 ตำบลเหมืองจี้ อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน  พร้อมด้วยของกลางไม้หวงห้าม (ขะเจ๊าะ,เหียง) จำนวน 20 ท่อน ปริมาตร 0.340  ลูกบาศก์เมตร คิดค่าเสียหาย ของรัฐเป็นเงิน 4,240.- บาท เลื่อยโซ่ยนต์ยี่ห้อ โซแม็กซ์ (ZOMAX) สีน้ำเงิน-ขาว เครื่องหมายเครื่องจักรกลต้นกำลัง ไม่มี  เครื่องหมายแผ่นบังคับโซ่ ไม่มี แผ่นบังคับโซ่ ความยาว 16 นิ้ว หมายเลขแผ่นบังคับโซ่ ไม่มี จำนวน 1 เครื่อง ราคาประเมินเป็นเงิน 1,000.บาท ไม้ฟืน จำนวน 1 กอง ปริมาตร 1.80  ลูกบาศก์เมตร  และ

รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล (กระบะบรรทุก) ยี่ห้อ อีซูซุ สีแดง ทะเบียน บบ 2925 ลำพูน เลขเครื่องยนต์   4เจเอ-ซี11 หมายเลขตัวรถ 54เอช เอ-9728203  จำนวน 1 คัน ประเมินราคาเป็นเงินประมาณ 30,000.- บาท และแชลง จำนวน 2 อัน เป็นเงิน 200.บาท

โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 11 ประกอบมาตรา 73 ฐาน “ทำไม้หรือกระทำด้วยประการใด ๆ แก่ไม้หวงห้ามในป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” มาตรา 69 ฐาน “มีไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่มีรอยตราค่าภาคหลวงหรือรอยตรารัฐบาลขาย” พระราชบัญญัติเลื่อยโซ่ยนต์ พ.ศ. 2545-มาตรา ๔ ประกอบ มาตรา ๑๗ ฐาน “มีเลื่อยโซ่ยนต์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่”

สอบสวนเบื้องต้นนายนิกูลผู้ต้องหาให้การ(ตามบันทึกจับกุม)ว่า ไม้ท่อนทั้งหมดที่อยู่บนรถทั้งหมดเป็นของตนเอง ซึ่งตนได้ไปทำการตัด หรือโค่นไม้บางส่วนมาจากป่า ซึ่งเป็นที่สาธารณะประโยชน์ของหมู่บ้านหนองสร้อย แต่ยังไม่ได้ประกาศหรือขึ้นทะเบียนเป็นที่ป่าชุมชนแต่อย่างใด และให้การว่า ตนมีอาชีพตัดไม้เผาถ่าน เมื่อประมาณ 10 วันที่ผ่านมา ( วันที่ 20,21 พ.ค. 2564) เวลากลางวันประมาณ 09.00 น. นายวิวัฒน์วงศ์ หรือเค จี้ระกันทะ ผู้ใหญ่บ้านหนองสร้อย หมู่ที่ 1 ตำบลมะกอก อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน ได้โทรศัพท์ เรียกให้ตนไปพบที่บ้าน (ที่ทำการผู้ใหญ่บ้านหนองสร้อย) ซึ่งตนได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปพบตามวันและเวลาดังกล่าว เมื่อตนไปถึงที่ทำการผู้ใหญ่บ้านหนองสร้อย พบนายวิวัฒน์วงศ์ หรือเค จี้ระกันทะ พร้อมด้วยนายทอน และนายเบิร์ด ไม่ทราบชื่อ ชื่อสกุลจริง ตำแหน่งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหนองสร้อยนั่งรออยู่ก่อนแล้ว นายวิวัฒน์วงศ์ฯ ได้แจ้งให้ตนไปทำการตัดโค่นต้นไม้และนำเอาไม้ทั้งหมดดังกล่าวที่ขึ้นอยู่ในป่า ซึ่งเป็นที่สาธารณะประโยชน์ของหมู่บ้านหนองสร้อยที่ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งนายวิวัฒน์วงศ์ หรือเค จี้ระกันทะ แจ้งว่าตนได้ประชุมคณะกรรมการหมู่บ้านเรียบร้อยแล้ว มติที่ประชุมให้ทำการตัดโค่นต้นไม้ที่ขึ้นอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวออกให้โล่งเตียน เพื่อเตรียมการที่จะขุดสระกักเก็บน้ำทำเป็นอ่างกักเก็บน้ำของหมู่บ้าน  เจ้าหน้าที่สอบถามนายนิกูลฯ ว่ามีพยานหลักฐานการอนุญาตที่เป็นหนังสือซึ่งเป็นลายลักษณ์อักษร หรือมีพยานบุคคลหรือพยานหลักฐานอื่นใดหรือไม่ อย่างไร นายนิกูลฯ ให้การว่า ข้าฯ เดินทางไปคนเดียวไม่มีพยานบุคคลร่วมเดินทางไปด้วย มีแต่พยานฝั่งของนายวิวัฒน์วงศ์ หรือเค จี้ระกันทะ รายนามดังที่ข้าฯ ได้ให้การไว้ข้างต้น เจ้าหน้าที่สอบถามนายนิกูลฯ ว่า ตนได้ขออนุญาตทำไม้ต่อเจ้าหน้าที่ป่าไม้ หรือไม่ อย่างไร นายนิกูลฯ ให้การว่าตนไม่ได้ขออนุญาตทำไม้ต่อเจ้าพนักงานป่าไม้แต่อย่างใด ไม้เหียงทั้งหมดตนตัดมาจากที่ติดกรรมสิทธิ์ของนายแอ้   ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านตีนดอย แต่ตนไม่มีพยานหลักฐานโฉนดที่ดินแปลงที่ไม้เหียงขึ้นอยู่มาแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด ส่วนไม้ขะเจ๊าะที่ขึ้นอยู่ข้างทางซึ่งเจ้าหน้าที่มาตรวจพบขณะที่ตนกำลังทำการตัดโค่น และตัดทอนไม้ดังกล่าวนั้น นายวิวัฒน์วงศ์ หรือเค จี้ระกันทะ ได้สั่งการให้ตนตัดโค่นและนำออกไปเผาถ่าน โดยให้เหตุผลว่าต้นไม้ต้นดังกล่าว (ขะเจ๊าะ) กีดขวางเส้นทางที่จะวางท่อน้ำที่จะสร้างในอนาคต เมื่อผู้ใหญ่บ้านสั่งการดังกล่าว ตนเข้าใจว่าสามารถทำได้ ตนจึงได้ตัดโค่นต้นไม้ดังกล่าว  ซึ่งข้อเท็จจริงตามคำให้การของนายนิกูล ผู้สื่อข่าวจะได้ติดต่อสอบถามผู้ที่ถูกอ้างถึงคือนายวิวัฒน์วงศ์ รวมถึงผู้บังคับบัญชาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง