หญิงไทใหญ่ร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือดหลังลูกชายวัย 3 ขวบเศษหายตัว สุดท้ายครูโรงเรียนเอกชนพบเด็กเดินคนเดียวริมถนนผ่านโรงเรียน อุ้มไปพูดคุยแจ้งตำรวจจนหาพ่อแม่เจอ

หญิงไทใหญ่ร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือดหลังลูกชายวัย 3 ขวบเศษหายตัว สุดท้ายครูโรงเรียนเอกชนพบเด็กเดินคนเดียวริมถนนผ่านโรงเรียน อุ้มไปพูดคุยแจ้งตำรวจจนหาพ่อแม่เจอ

เวลา 13.30 น.วันที่ 10 มีนาคม 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองลำพูน ได้รับแจ้งจากครูโรงเรียบใบบุญ ตำบลเวียงยอง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ว่าพบเด็กผู้ชายพลัดหลงเดินไปตามถนนลำพูน-ดอยติ ผ่านหน้าโรงเรียนใบบุญ ครูและยามเห็นว่าผิดสังเกตุ เพราะเด็กตัวเล็กนิดเดียวแต่เดินมาคนเดียว โดยไม่มีผู้ใหญ่มาด้วย จึงเรียกเด็กเข้าไปหาแล้วอุ้มเข้าไปในโรงเรียนเพื่อสอบถาม แต่ไม่สามารถสื่อสารภาษาไทยได้รู้เรื่องคาดว่าเป็นลูกครึ่งหรือเด็กมีปัญหาด้านการสื่อสาร ในระหว่างรอเจ้าหน้าที่ตำรวจ ครูโรงเรียนใบบุญจึงนำข้าวมาให้กินพร้อมกับขนม เด็กก็กินและไม่มีท่าทีตกใจหรือตื่นกลัวแต่อย่างใด

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงก็วิเคราะห์สถานการณ์เพื่อหาแหล่งที่ผู้ปกครองอยู่ เพราะในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงของโรงเรียนใบบุญลำพูนมีชุมชนอิสลาม และชุมชนต่างด้าวของกลุ่มไทใหญ่อยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจจึงขับรถจักรยานยนต์สายตรวจไปตามหา ก็พบว่ามีนายปานคำ (ไม่มีนามสกุล)อายุ 27 ปี และนางแสง (ไม่มีนามสกุล) อายุ 24 ปี พ่อแม่ของน้องนนท์ อายุ 3ขวบ 3 เดือน พร้อมด้วยเพื่อนๆต่างด้าวกำลังตามหาลูกชายพอดี เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ 20 ขับรถยนต์นำลูกชายมาส่งถึงกับปล่อยโฮร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ

นางแสง แม่ของน้องนนท์ กล่าวว่า ตนมีลูก 2 คน คือลูกชายน้องนนท์ที่หายตัวไปวัย 3 ขวบ 3 เดือน  และลูกสาววัย 1 ขวบเศษ ก่อนเกิดเหตุก็ปล่อยให้ลูกชายเล่นอยู่ในบริเวณบ้านเช่า เพราะปกติลูกจะไม่ออกไปนอกรั้ว แต่วันนี้ไม่รู้ว่าลูกหายไปไหนกว่าจะคิดได้และหาตัวก็ไม่พบจึงพากันตามหาตัวจนทั่วบ้านพักและบริเวณใกล้เคียง รวมถึงบ่อน้ำที่อยู่ใกล้ๆก็ไม่พบ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวมาส่งดังกล่าว ซึ่งนางแสงรับปากทั้งน้ำตาว่าต่อไปนี้จะดูแลลูกให้ดีกว่าเดิม