ขี้ยามีหนาว.!ไม่รู้เจ้าหน้าที่ตัวจริงหรือตัวปลอม อุ้มเข้าป่าช้ารีดเงิน 4 หมื่น ก่อนซิ่งกระบะและเก๋งหายเข้ากลีบเมฆ
ขี้ยามีหนาว ไม่รู้เจ้าหน้าที่ตัวจริงหรือตัวปลอม อุ้มเข้าป่าช้ารีดเงิน 4 หมื่น ก่อนซิ่งกระบะและเก๋งหายเข้ากลีบเมฆ
ผู้สื่อข่าวรายงานงานว่า เมื่อช่วงค่ำวานนี้ 8 ม.ค.64 ได้มีชายจำนวน 5 คน ขับรถกระบะสีดำ 4 ประตู 1 คัน ทะเบียนพะเยา อีกคันเป็นรถยนต์เก๋งสีเขียว อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการจับกุมยาเสพติด รวมทั้งหมด 5 คน ได้ขับรถยนต์เข้าไปในพื้นที่ตำบลทากาศ อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน
หลังจากนั้นได้ไปควบคุมตัวชายในหมู่บ้าน เขตตำบลทากาศจำนวน 4 คน หลังจากทำการล่อซื้อยาบ้าได้ พร้อมอ้างหลักฐานการล่อซื้อ หลังจากนั้นได้นำตัวขึ้นรถยนต์ทั้ง 2 คันไป แทนที่จะนำตัวไปโรงพักหรือไปสอบสวนในสถานที่ราชการ กลับนำตัวไปที่ป่าช้าแห่งหนึ่ง ทำการแยกสอบ พร้อมกับยื่นข้อเสนอโดยการให้ชายทั้ง 4 คนที่ถุกคุมตัวไปซึ่งมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด หลังจากนั้นได้เสนอให้นำเงินมาให้กลุ่มชายที่อุ้มมา คนละ 1 หมื่นบาท รวมทั้งหมด 4 หมื่นบาท แลกกับการปล่อยตัวและแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี
ชายทั้ง 4 คนด้วยความกลัวจะถูกจับดำเนินคดีจึงแจ้งให้ญาตินำเงินสดไปให้ เสมือนกับว่าไปไถ่ตัว โดยนัดหมายกันที่ใกล้ๆแยกดอยติ ตำบลป่าสัก อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ในช่วงดึก โดยให้ญาตินำเงินไปให้บริเวณดังกล่าว เมื่อชายทั้ง 5 คนได้รับเงินจำนวน 4 หมื่นบาทแล้วก็ทำการปล่อยตัวให้เดินทางกลับบ้านพร้อมญาติ
ซึ่งเหตุการณ์ยังคลุมเครือ เพราะยังไม่ทราบว่ากลุ่มชายคนดังกล่าวนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงๆหรือไม่ หรือเป็นการสวมรอย เพราะในอดีตที่ผ่านมาก็มีแก๊งรีดไถทั้งคนนอกที่ร่วมมือกับคนในป้อนข้อมูลให้แล้วก็จับกุมตัวไปรีดทรัพย์เรียกเงินแล้วปล่อยตัว จนมีการร้องเรียนแล้วซ้อนแผนจังกุมตัวไปดำเนินคดี เหตุเกิดที่อำเภอป่าซาง เมื่อหลายปีก่อน รวมทั้งมีคนในเครื่องแบบนอกรีดจริงๆบางกลุ่มบางคนได้กระทำการลักษณะแบบนี้ และเคยเกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดลำพูนมาแล้ว แต่ไม่มีใครกลล้าแจ้งความ
และเหตุการณ์ครั้งทางญาติผู้เสียหายก้ไม่อยากให้เกิดขึ้น แม้ว่าจะมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดจริงๆก็จับไปดำเนินคดีได้เลย ไม่ใช่การรีดเงินแบบนี้ และครั้งก็คงต้องมีการร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่กลุ่มคนพวกนี้อ้างถึง เพราะวันนี้มีการให้ญาติที่เป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงานหนึ่งไปเก็บข้อมูลหลักฐานเช่นภาพจากกล้องวงจรปิดด้วย ซึ่งข้อเท็จจริงผู้สื่อข่าวจะได้ติดตามรายละเอียดมานำเสนอต่อไป