คนไทยกลัวเป็นมะเร็งตาย มากกว่าอุบัติเหตุทางรถ เบื้องหลังกล้องคนทำข่าวคือความสลดใจ
คนไทยกลัวเป็นมะเร็งตาย มากกว่าอุบัติเหตุทางรถ เบื้องหลังกล้องคือความสลดใจ
การที่ลงพื้นที่ทำข่าว ในฐานะผู้สื่อข่าวภูมิภาค หรือผู้สื่อข่าวประจำจังหวัด และผมเรียกตัวเองว่า นักข่าวบ้านนอก นั้น นอกเหนือจากออกไปทำข่าวเหตุการณ์ต่างๆแล้ว เหตุการณ์ต่างๆนานๆทีจะเกิด เช่นข่าวไฟไหม้ ข่าวปัญหาสังคม ข่าวร้องทุกข์ร้องเรียน แต่ที่มีเป็นประจำในทุกๆวัน ก็คือข่าวอุบัติเหตุทางรถ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ มองดูและบางเหตุการณ์บางครั้งมันไม่น่าจะเกิดขึ้น
เสียงร่ำไห้ของญาติผู้สูญเสีย เสียงคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวดของผู้ประสบอุบัติเหตุ คือสิ่งที่พบเห็นบ่อยครั้งแทบทุกวัน และมันทำให้ผมเกิดความรู้สึกสลดหดหู่ในจิตใจ เศร้าใจ เสียใจ รวมถึงปัญหาด้านคดีความที่ตามมา ทำให้หลายคนแทบหมดเนื้อหมดตัว บางคนถึงกับสูญเสียทุกสิ่งบางคนส่งผลให้ครอบครัวล่มสลาย สูญเสียอวัยวะของร่างกาย สูญเสียเงินทองทรัพย์สิน อุบัติเหตุเกิดขึ้นเพียงแค่เสี้ยววินาทีของความประมาท ส่งผลปัญหาในด้านต่างๆมากมาย
สาเหตุหลักๆของการเกิดอุบัติเหตุคือ ความประมาท ซึ่งไม่น่าที่จะเกิดขึ้น สภาพร่างกาย สภาพของรถและสภาพของถนนเป็นเพียงส่วนน้อย ผมมานั่งคิดและวิเคราะห์ถึงปัญหาอุบัติเหตุที่มีทุกวันไม่ยอมลด รวมถึงสาเหตุที่มันเกิดขึ้น ก็พอจะสรุปคร่าวๆว่า คนไทยไม่เคารพกฎจราจร คนไทยไม่มีวินัยในการใช้รถใช้ถนน คนไทยขับรถประมาท ขับรถแบบเมามันส์ไร้สติคึกคนอง ทำให้สูญเสียชีวิตและทรัพสินไม่น้อยในแต่ละปี
ที่โรคมะเร็งคนไทยกลัว เริ่มหลีกเลี่ยงอาหารที่ส่งผลต่อสุขภาพ อาหารขยะรู้จักเลือกกินเพื่อหลีกเลี่ยงมะเร็ง ดูแลสุขภาพ รวมถึงการพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อลดความเสี่ยงในการเสี่ยงก่อเกิดโรคมะเร็ง แต่คนไทยไม่กลัวอุบัติเหตุไม่กลัว ผลกระทบที่จะตามมา ยังขับรถแบบไร้จิตสำนึก ไร้ความรับผิดชอบต่อสังคม ต้องย้ำกันเสมอๆว่า อุบัติเหตุไม่ใช่เรื่องของเวรกรรม แต่เป็นเรื่องของความประมาท แต่คนไทยไม่สนใจเรื่องความปลอดภัยด้านอุบัติเหตุ แต่สนใจและกลัวเป็นมะเร็งมากกว่า ผมไม่อยากออกไปทำข่าวอุบัติเหตุ ผมเบื่อหน่าย ภาพความสูญเสียภาพเลือด ภาพแขนขาดขาดกระเด็น ภาพสมองกระจาย ภาพหัวขาด ต่อหน้าผม ทุกครั้งที่มือกดซัสเตอร์ภาพ หาใช่ความดีใจที่ได้ภาพดีข่าวเด่น แต่เบื้องหลังกล้อง คือความสลดหดหู่ภายในจิตใจของคนทำข่าว
ชัชวาลย์ คำไท้