อดีตภารโรงโหดวัย 71 ก่อเหตุขืนใจยายวัย 75 แล้วใช้เชือกรัดคอดับคาบ้าน

อดีตภารโรงโหดวัย 71 ก่อเหตุขืนใจยายวัย 75 แล้วใช้เชือกรัดคอดับคาบ้าน

วันที่ 13 มีนาคม 2567 เกิดเหตุสลดใจขึ้นที่บ้านคุณยายวัย 75 ปี เมื่อนายนวล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 71 ปี อดีตภารโรงสถานีตำรวจ สภ.ลี้ ได้ก่อเหตุขืนใจนางตา (ขอสงวนชื่อนามสกุลจริง) หญิงหม้ายชราวัย 75 ปี แล้วใช้เชือกรัดคอจนเสียชีวิต
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นขึ้นเมื่อคืนวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา ร.ต.อ.นิพนธ์ กรรณิการ์ รองสารวัตรสอยสวน สภ.ลี้ ได้รับแจ้งมีเหตุหญิงชราวัย 75 ปี ใช้เชือกผูกคอเสียชีวิตในห้องนอน ที่บ้านใหม่ศิวิไลฯ หมู่ที่ 12 ตำบลลี้ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน
จึงรายงานให้ พ.ต.อ.วิชา กันทาสุข ผกก.สภ.ลี้ และผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ลี้ ,แพทย์เวรโรงพยาบาลลี้ และเจ้าหน้าที่กู้ภัย
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้สองชั้นสภาพเก่า ภายในห้องนอนชั้นล่าง พบร่างของนางตา อายุ 75 ปี เสียชีวิตในที่นอนมีผ้าห่มคลุมไว้ พัดลมยังคงเปิดอยู่ที่ลำคอมีเชือกไนล่อนสีเขียวรัดบริเวณลำคอโยงกับเหล็กบนหัวเตียง และมีหมอนปิดอำพรางไว้ ผ้าถุงถูกถลกขึ้น ลักษณะเหมือนถูกกระทำชำเรา คาดว่าเสียชีวิตมาประมาณ 5-6 ชั่วโมง หลังการชันสูตรเบื้องต้นของแพทย์ กลับไม่ใช่การผูกคอตัวเองเสียชีวิตแต่อย่างใด แต่กลับกลายเป็นการฆาตกรรมอำพราง โดยการถูกรัดคอ อุดปากอุดจมูก เนื่องจากบริเวณลำคอมีรอยรัดของเชือก และบริเวณปากมีรอยซ้ำทั้งข้างบนและข้างล่าง บริเวฯดวงตามีจุดเลือดออกน่าจะเกิดจากการขาดอากาศหายใจจากการที่ถูกกดบริเวณลำคอ และหางตาขวามีรอยซ้ำ อีกทั้งบริเวณข้อมือทั้งสองข้างมีรอยซ้ำน่าจะเกิดจากการยื้อยุดฉุดกระซาก มีรอยซ้ำที่บริเวณหน้าอก
จากการสอบถามนางฟอง  อายุ 73 ปี น้องสาวของผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นผู้พบศพคนแรก ให้การว่า ปกติในทุกๆวันในช่วงเช้าและเย็นตนจะปั่นจักรยานนำข้าวปลาอาหารรวมถึงขนมมาให้พี่สาวทุกวัน เนื่องจากมีบ้านห่างกันประมาณ 500 เมตร โดยช่วงสายที่ผ่านมาตนก็ปั่นจักรยานมาถึงที่บ้านพี่สาวก็เห็นผิดสังเกตุุว่าทำไมวันนี้ไม่เปิดบ้านหรือว่าตื่นสาย ประกอบกับประตูหน้าบ้านถูกล็อคไว้ แต่ประตูห้องนอนเปิดไว้ จึงเรียกเพื่อนบ้านมาช่วยกันเปิดดูก็พบว่าพี่สาวได้เสียชีวิตแล้ว ตอนแรกเข้าใจว่าใช้เชือกผูกคอตัวเองเสียชีวิต แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่าเป็นการฆาตกรรม ส่วนสาเหตุตนก็ไม่ทราบ และไม่ทราบว่าใครใจร้ายทำกับพี่สาวของตนเองได้ขนาดนี้ ที่ผ่านมาพี่สาวก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับใคร เพราะอายุมากแล้ว อาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวเพียงลำพัง เพราะว่าสามีและลูกๆอีก2คนได้เสียชีวิตไปนานหลายปีแล้ว มีเพียงหลานสาวคนเดียวที่ทำงานอยู่ในเมืองลำพูน ทราบแต่เพียงว่ามีชายคนหนึ่งมีความสนิทสนมกับพี่สาวของตน มักจะไปมาหาสู่กันบ่อยครั้ง
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบแน่ชัดว่าเป็นการฆาตกรรมอำพราง เจ้าหน้าที่ตำรวจและส่วนที่เกี่ยวข้องเก็บวัตถุพยานหลักฐานต่างๆที่คาดว่าจะเกี่ยวข้อง และทำการสืบสวนสอบสวนเพื่อหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ ในเบื้องต้นจากการสอบสวนทราบว่านางนันตา ผู้เสียชีวิต อาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวเพียงลำพังคนเดียว สามีและลูกๆได้เสียชีวิตไปหมดแล้ว เหตุการณ์ดังกล่าวคาดว่าจะเกิดในช่วงกลางคืนที่ผ่านมา หลังก่อเหตุคนร้ายได้หยิบโทรศัพท์ของผู้เสียชีวิตไปด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงสืบสวนหาเบาะแส ทราบว่านางนันตาผู้เสียชีวิต รู้จักสนิทสนมกับผู้ชายคนหนึ่งซึ่งอยู่คนละหมู่บ้าน มีบ้านพักห่างกันประมาณ 2 กิโลเมตร และมักจะไปมาหาสู่กันบ่อยครั้ง ทราบชื่อต่อมาคือนายนวล  อายุ 71 ปี อดีตภารโรง สภ.ลี้ เจ้าหน้าที่จึงได้เดินทางไปเชิญตัวมาสอบสวน ที่ สภ.ลี้ ก่อนที่นายศรีนวลผู้ต้องสงสัยจะรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุฆาตกรรมนางตาจริง แต่ไม่ยอมบอกสาเหตุของการก่อเหตุในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่าฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และได้ควบคุมตัวไว้ และบ่ายวันนี้ได้นำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ แต่เนื่องจากที่บ้านที่เกิดเหตุกำลังมีการจัดเตรียมงานศพ มีชาวบ้านและญาติๆจำนวนมาก ผู้ต้องหาจึงไม่กล้าลงไปทำแผนเพราะกลัวถูกประชาทัณฑ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเปลี่ยนสถานที่โดยการนำตัวไปทำแผนที่บ้านของนายศรีนวล แทน แล้วนำตัวส่งศาลจังหวัดลำพูนทันที

ทีมข่าวอาชญากรรมรายงาน

(ทีมข่าวขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วยความเคารพ การนำเสนอข่าวเป็นการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนในการนำเสนอข่าวตามหน้าที่เท่านั้น มิได้มีเจตนาทำให้ผู้หนึ่งผู้ใดที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เสื่อมเสียชื่อแต่อย่างใด และมิได้มีเจตนาจะดูหมิ่นผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด ส่วนข้อเท็จจริงอยู่ที่กระบวนการยุติธรรม)