ชาวบ้านฮึ่ม เตรียมรวมตัวบุกศาลากลางหลังหน่วยงานราชการในพื้นที่และผู้นำหมดปัญญาแก้ไขปัญหาฟาร์มสัตว์แม่ชี

ชาวบ้านฮึ่ม เตรียมบุกศาลากลาง หลังแม่ชียื้อเวลาไม่ยอมย้ายวัว ควาย ม้า ชาวบ้านชี้หน่วยงานราชการและผู้นำหมดปัญญาแก้
จากกรณีที่ชาวบ้านสันวิไล หมู่ที่ 9 ตำบลแม่ตืน อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ได้รวมตัวกันขับไล่ให้แม่ชีคนหนึ่ง ทำการขนวัว ควาย ลา และม้า ที่ไถ่ชีวิตแล้วนำมาเช่าพื้นที่ ซึ่งเป็นเขต สปก.ติดกับชุมชนนำสัตว์ชนิดต่างๆจำนวนมากหว่า 400 ตัว
มาเลี้ยงไว้ในพื้นที่ใกล้กับบ้านเรือนของชาวบ้าน ทำเกิดมีกลิ่นเหม็นของมูลสัตว์ และบางช่วงได้เกิดมีแมลงวันจำนวนมาก บินเข้าไปในบ้านชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงกับฟาร์ม ถึงขนาดต้องนำมุ่งมากางกินข้าว ได้รับความเดือดร้้อน ชาวบ้านบางคนก็เจ็บป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจ
ตามที่เป็นข่าวไปแล้ว นอกจากนั้นหลังจากมีฟาร์มพักสัตว์เหล่านี้เข้ามาในชุมชน ยังทำให้ชาวบ้านเกิดความขัดแย้งในชุมชน ชาวบ้านส่วนมากไม่เห็นด้วยต้องการให้ย้ายออกไป แต่ก็มีชาวบ้านบางส่วนที่ได้ผลประโยชน์จากฟาร์มแห่งนี้ ชาวบ้านมีความขัดแย้งกับผู้นำที่ไม่ยอมจัดการแก้ปัญหาให้เด็ดขาด จึงมีการร้องเรียนกันหลายรอบติดต่อกันมานานหลายเดือน แต่ก็ยังไม่มีการแก้ไข ซึ่งที่พักสัตว์เหล่านี้อยู่ติดกับชุมชนและชาวบ้านจำนวนมากเดือดร้อน เพราะนอกจากกลิ่นแล้วชาวบ้านยังหวั่นโรคติดต่อที่มากับสัตว์ต่างๆเหล่านี้ การนำสัตว์เข้ามาในพื้นที่ แบบไม่ถูกต้องตามขั้นตอนและมีบางเรื่องที่ผิดกฎหมายอีกด้วย นำมาพักไว้ร่วมปีโดยที่ไม่ผ่านประชาคมของหมู่บ้าน โดยอ้างว่าเส้นใหญ่รู้จักกับผู้หลักผู้ใหญ่ ทำให้ข้าราชการ และผู้นำชุมชนไม่กล้าทำอะไรหรือตัดสินใจแก้ปัญหาให้ชาวบ้าน จึงเกิดความขัดแย้งในพื้นที่ ทั้งที่แต่เดิมชาวบ้านรักใคร่สามัคคีกันดี พอมีปัญหานี้ทำให้เกิดความแตกแยก ชาวบ้านพยายามเจรจากับแม่ชี เพื่อให้นำสัตว์ออกไปจากชุมชน มีการตกลงกันเมื่อเดือนกรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมาว่าจะย้ายออกไปขอเวลา 90 วัน ล่าสุดได้ประวิงเวลา ขอยื้อไปอีก 90 วัน แต่การเจรจาล่าสุดขอเวลาอีก 45 วัน มีหนังสือจากสำนักงานปฎิรูปที่ดินลงเลขรับ 2057 ลงวันที่ 9 ตุลาคม 2566 ส่งไปถึงเจ้าหน้าที่ สปก.ลำพูน เรื่องการขอขยายเวลาขนย้ายสัตว์ ออกไปอีก 90 วัน ซึ่งทำให้ชาวบ้านผิดหวังกับหน่วยงานราชการหลายแห่งที่เกี่ยวข้อง ที่หมดปัญญาแก้ไข จึงได้เตรียมรวมตัวกันไปยื่นหนังสือร้อวเรียนที่ศาลากลางจังหวัดลำพูนเร็วๆนี้ ความคืบหน้าผู้สื่อข่าวจะรายงานให้ทราบต่อไป