ภารโรงละเมิดทางเพศเด็กหญิง ป 5 ยัดเงินให้ยาย 3 หมื่นขอไม่เอาเรื่อง รร.กลัวเสียชื่อให้ย้ายไปที่อื่นไม่ดำเนินคดี
ภารโรงละเมิดทางเพศเด็กหญิง ป 5 ยัดเงินให้ยาย 3 หมื่นขอไม่เอาเรื่อง รร.กลัวเสียชื่อให้ย้ายไปที่อื่นไม่ดำเนินคดี
ลำพูน ภารโรงโรงเรียนในเมืองลำพูนละเมิดทางเพศนักเรียน ป 5
ภารโรงโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ หมู่ที่ 2 ต.เหมืองง่า องเมือง จ.ลำพูน ล่วงละเมิดทางเพศเด็กนักเรียนหญิงชั้น ป.5 วัย 11 ขวบ ลูกแรงงานต่างด้าวเพื่อนของเด็กนักเรียนมาเห็นขณะก่อเหตุในห้องเรียนรีบแจ้งครูในโรงเรียน ขณะที่ภารโรงคนดังกล่าวรับสารภาพรีบนำเงินค่าทำขวัญไปมอบให้กับยายของเหยื่อ 3 หมื่นขอไม่ให้เอาเรื่อง
นายชัย นามสมมุติ อายุ 38 ปีแรงงานต่างด้าว พ่อของ เด็กหญิงดาว นามสมมุติ อายุ 11 ปี เด็กนักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ ตำบลเหมืองง่า อ.เมือง จ.ลำพูน เล่าว่าตนกับภรรยาทำงานเป็นคนงานก่อสร้างช่วงนี้ต้องทำไปทำงานที่ จ.ลำปาง จึงฝากให้ยายดูแลลูกสาว 2 คนโดยอาศัยอยู่ที่หอพักแห่งหนึ่งในหมู่บ้านเหมืองง่า ต.เหมืองง่า อ.เมือง โดยตนจะกลับมาอยู่กับลูกสาวทั้งสองที่ จ.ลำพูน ช่วงวันหยุดหลังจากนั้นตนจึงได้สอบถามน้องดาว ลูกสาวคนเล็กทราบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมาเช้าวันนี้ลูกสาวตนได้ไปถึงที่โรงเรียนเช้ากว่าคนอื่นจึงนั่งทำการบ้านอยู่ในห้องเรียนจู่นายชาติ นามสมมุติ อายุ 57 ปี ภารโรงของโรงเรียนได้เดินมาที่ห้องเรียนก่อนจะพูดคุยกับลูกสาวตนพร้อมกับใช้มือลูบที่หัวและใช้มือล้วงเข้าคอเสื้อลูบหน้าอก ต่อมาเพื่อนักเรียนในห้องเรียนมาเห็นเหตุการณ์พอดี นานชาติจึงเดินหนีไป ก่อนที่น้องดาวจะไปแจ้งให้คุณครูในโรงเรียนทราบ และโทรศัพท์มาบอกตนและอธิบายให้ฟังถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต่อมานายชาติ ภารโรงคนดังกล่าวได้ติดต่อมาขอเจรจากับยายของน้องดาวฯ พร้อมจ่ายเงินค่าเสียหายให้ 3 หมื่นบาทเพื่อขอไม่ให้เอาเรื่อง และทางโรงเรียนได้แจ้งว่าได้ไล่ให้ภารโรงคนดังกล่าวไปอยู่ที่อื่นแล้ว
นายชัยฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ลูกสาวตนเรียนที่โรงเรียนดังกล่าวตั้งแต่ชั้นอนุบาล จนถึงชั้น ป.5 หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวได้สอบถามลุกสาวทราบว่ายังอยากเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้อยู่ เพราะว่ามีเพื่อนๆที่สนิทกันเรียนอยู่ที่นี่และอีกอย่างหากย้ายไปโรงเรียนอื่นไม่มีเพื่อนที่รู้จักเลย ทำให้ตนอดเป็นห่วงลูกสาวไม่ได้เนื่องจากต้องไปทำงานไกล นานถึงจะกลับมาอยู่ด้วย อย่างไรก็ตามขณะนี้ตนยังไม่ได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเนื่องจากมีครูในโรงเรียน ขอร้องไว้เนื่องจากกลัวเสียชื่อเสียงของโรงเรียนประกอบกับตนไม่มีความรู้เรื่องกฎหมายและงานที่ทำอยู่นายจ้างก็เร่งทำให้ไม่มีเวลาที่จะดำเนินการเรื่องนี้
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สอบถามกับชาวบ้านในพื้นที่หลายคนได้เล่าพฤติกรรมของนายชาติฯภารโรงคนดังกล่าวเคยมีพฤติกรรมล่วงละเมิดเด็กมาก่อนแต่ผู้เสียหายไม่ได้แจ้งความนอกจากนี้บ่อยครั้งที่นายชาตินมักจะมีอาการคล้ายคนเมาตอนไปทำงานบ่อยครั้งทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ไม่ค่อยชอบกับพฤติกรรมดังกล่าวกลัวว่าจะก่อเหตุกับลูกหลานของตน
โปรดใช้พิจารณญาณในการรับชม เด็กเยาวชนควรได้รับคำแนะนำจากผู้ใหญ่
การนำเสนอข่าวเพื่อเป็นการเตือนภัยสังคมเท่านั้นมิได้มีเจตนาในการละเมิดเด็กหรือผู้ที่เกี่ยวของกับเหตุการณ์ เป็นการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนในการสะท้อนปัญหาสังคมเท่านั้น
(สงวนลิขสิทธิ์ภาพข่าวและเนื้อหาทั้งหมด)