จะให้ไล่อีกกี่รอบจึงจะไป..ชาวบ้านรวมตัวติดป้ายทั่วหมู่บ้านขับไล่ฟาร์ม วัวควาย ม้า ลา ของแม่ชีคนดัง จนท.สปก.ลงพื้นที่ตรวจพบใช้ที่ดินผิดประเภทเตรียมยกเลิกสิทธิ์ผู้ครอบครอง

ชาวบ้านรวมตัวติดป้ายทั่วหมู่บ้านขับไล่ฟาร์ม วัวควาย ม้า ลา ของแม่ชีคนดัง จนท.สปก.ลงพื้นที่ตรวจพบใช้ที่ดินผิดประเภทเตรียมยกเลิกสิทธิ์ผู้ครอบครอง
ช่วงบ่ายวันนี้( 30 มิ.ย.66) ที่บ้านสันวิไล หมู่ที่ 9 ตำบลแม่ตืน อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ได้มีชาวบ้านกว่า 50 คน ได้พากันรวมตัวแล้วนำป้ายมาติดตั้ง เพื่อต่อต้านการนำ วัวควาย ม้า ลา กว่า 300 ตัว ที่ไถ่ชีวิตมา จำนวนมาก เข้ามาเช่าพื้นที่ป่า สปก.
ติดกับหมู่บ้าน ซึ่งชาวบ้านหวั่นเกรงจะได้รับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และที่ผ่านมาต้องพบกับแมลงวันจำนวนมาก ทำให้ต้องได้รับความเดือดร้อน ถึงกับต้องกางมุ่งกินข้าว นอกจากนั้นกลิ่นของมูลสัตว์ต่างๆจำนวนมากกว่า 300 ตัว ได้ส่งกลิ่นเหม็นรบกวน
ชาวบ้านที่มีรั๊วติดกับฟาร์มดังหล่าว และเคยมีการรวมตัวขับไล่มาแล้วครั้งหนึ่ง โดยชาวบ้านมีความประสงค์จะให้ย้ายออกไปจากชุมชน แต่ยังไม่มีการย้ายสัตว์ต่างๆออกไปจากพื้นที่ จึงมีการคัดค้านแล้วร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างต่อเนื่อง
วันนี้จึงได้มีการนัดหมายกับภาคส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทั้ง ฝ่ายปกครอง ฝ่ายความมั่นคง ฝ่าย อบต.ฝ่ายสาธารณสุข และชาวบ้านประชุมกันที่ห้องประชุมขององค์หารบริหารส่วนตำบลเวียงแก้ว ตำบลแม่ตืน อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน เพื่อหาทางออกร่วมกัน
แต่ยังหาข้อยุติไม่ได้ เพราะฝ่ายของแม่ชีในนามสวนปันอิสระภาพ ไม่ยอมมาชี้แจง ทำให้ชาวบ้านต่างไม่พอใจ เพราะพยายามติดต่อให้มาพบเพื่อแก้ไขปัญหาและให้เร่งนำสัตว์จำนวนกว่า 300 ตัวออกไป แต่ไม่ยอมมาร่วมประชุมอ้างอย่างเดียวว่าถูกชาวบ้านกลั่นแกล้ง
กำลังร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับ สว.ท่านหนึ่ง อ้างแต่ว่ารู้จักกับผู้หลักผู้ใหญ่ ชาวบ้านจึงสุดทนช่วงบ่ายวันนี้จึงนัดกันนำป้ายไปติดทั่วหมู่บ้าน และทางเข้าฟาร์ม
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องจึงเดินทางมาสมทบกับชาวบ้าน เพื่อร่วมกันตรวจสอบอีกครั้ง ทั้งฝ่ายปกครอง ฝ่ายสาธารณสุขของ อบต.เวียงแก้ว นำโดยนายธนาธิป อุตีะมา นายก อบต.เวียงแก้ว และเจ้าหน้าที่ สปก.ก็ได้ลงมาตรวจสอบ แต่ผู้ดูแลไม่ยอมเปิดประตูให้เจ้าหน้าที่เข้าไป
แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ อบต.ก็พบว่ามีการปิดกั้นทางสาธารณะกว่า 21 เมตร ซึ่งเป็นเส้นทางไปสวนลำไยของชาวบ้าน ซึ่งถือว่าผิดกฎหมายที่ปิดกั้นทางสาธาณะ ซึ่ง อบต.จะได้ดำเนินการตาทแนวของของกฏหมายต่อไป
นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ สปก.ก็ได้ตรวจพบว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดิน สปก.4-01 ครอบครองโดยชาวบ้านรายหนึ่งแจ้งการครอบครองไว้จำนวน 47 ไร่เศษและให้เช่า มีหนังสือการเช่าระบุไว้ว่าเช่าที่ดินดังกล่าว
นอกนั้นเป็นพื้นที่ป่าสงวน ซึ่งการใช้ประโยชน์ของที่ดิน สปก.นั้นเบื้องต้นถือว่าผิดเงื่อนไขในการยื่นขอ เพราะที่ดิน สปก.ไม่สามารถให้ผู้อื่นเช่าได้ และไม่สามารถเช่าเลี้ยงสัตว์หรือทำการปศุสัตว์ได้ ให้มีไว้เพื่อทำการเกษตรเท่านั้น เท่ากับว่าผิดเงื่อนไขหลายข้อ
จะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและแจ้งยกเลิกการถือครองตามกฎหมายต่อไป ชาวบ้านใช้เวลารวมตัวกันนานกว่า 5 ชั่วโมง จึงแยกย้ายกันไป เพื่อรอให้ภาครัฐที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบกฎหมายต่างๆต่อไป ความคืบหน้าผู้สื่อข่าวจะติดตามรายงานให้ทราบอีกครั้ง

ทีมข่าวสังคม รายงาน