สาวห้างแจ่มฟ้ารมควันดับคารถ คาดเครียดหนี้สิน

ลำพูน สาวพนักงานห้างสรรพสินค้ารมควันฆ่าตัวตายในรถยนต์

พบศพสาวพนักงานตรวจสอบบัญชีห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในตัวเมืองลำพูน น้อยใจในโชคชะตาและมีหนี้สินจากการกู้ยืมเงินเพื่อนร่วมงาน พบมีเงินติดตัวก่อนฆ่าตัวตายมี้งินติดตัวเพียง 20 บาท ก่อนรมควันฆ่าตัวตายในรถยนต์กลางเมืองลำพูน
เวลา 09.30 น.(10 พ.ค.66) ร.ต.อ.สุพจน์ นุกาศ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองลำพูน ได้รับแจ้งเหตุ มีผู้หญิงรมควันเสียชีวิตภายในรถเก๋ง
บริเวณถนนราชวงศ์ ด้านทิศเหนือศาลากลางจังหวัดลำพูน(หลังเก่า) ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.ฐิติพล อรุณสกุล ผกก.สภ.เมืองลำพูน
พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดลำพูน แพทย์เวร รพ.ลำพูน และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสมาคมกู้ภัยร่วมใจลำพูน ทราบชื่อผู้เสียชีวิตในเวลาต่อมาคือนางสาวสุจิตรา แก้วมาลี หรือยุ้ย อายุ 35 ปี บ้านอยู่ หมู่ที่ 1 ตำบลบ้านเรือน อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน
จุดเกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งสีดำ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค หมายเลขทะเบียน ก จ 4050 ลำพูน จอดอยู่และล็อคประตูไว้ เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานช่างเปิดกุญแจมาทำการเปิดประตู ซึ่งช่างกุญแจใช้เวลาเปิดนานกว่า 2 ชั่วโมง แต่ไม่สามารถเปิดได้ ช่างกุญแจจึงได้ทำการนำธูปจำนวน 9 ดอก
มาจุดเพื่อบอกกล่าวและขอขมาผู้เสียชีวิต แต่ก็ยังไม่สามารถเปิดได้ จึงได้แจ้งให้ญาติกลับไปนำกุญแจสำรองที่บ้านมาเปิดจึงสามารถเปิดได้ พบร่างของนางสาวสุจิตรา สวมเสื้อสัญลักษณ์ของห้างสรรพสินค้าแจ่มฟ้า แขนสั้นสีดำ กางเกงขายาว นอนหงายบริเวณเบาะด้านที่นั่งคนขับ คาดว่าเสียชีวิตมาประมาณ 6-8 ชั่วโมง นอกจากนั้นบริเวณที่พักเท้าด้านซ้ายฝั่งผู้โดยสารพบเตาอังโล่ขนาดเล็กวางอยู่ มีร่องรอยของการจุดถ่านและมีขี้เถ้ามอดอยู่ จึงคาดว่านางสาวสุจิตรา ได้ทำการรมควันตัวเองจนเสียชีวิตดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบกระเป๋าถือของผู้เสียชีวิต พบว่ามีเงินติดกระเป๋าเพียง 20 บาท นอกจากนั้นยังพบหนังสือสัญญากู้ยืมเงินหลายฉบับ มียอดตั้งแต่ 300 บาท 1500 บาท และ 10000 บาท ซึ่งทราบว่าได้ทำการยืมเงินจากเพื่อนร่วมงานหลายคน เจ้าหน้าที่จึงคาดว่าน่าจะเป็นสาเหตุทำให้เกิดความเครียด ก่อนจะคิดสั้นดังกล่าว
สอบถามนางอรุณี เขียวพรรณ น้าของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ปกตินางสาวสุจิตรา เป็นคนร่างเริงแจ่มใส ร่างกายแข็งแรง อาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกับตนเองไม่มีครอบครัว ไม่เคยเล่าเรื่องอะไรหรือระบายเรื่องปัญหาให้ฟังเลย ปกติเช้ามาก็ไปทำงานเป็นพนักงานที่ห้างสรรพสินค้า ค่ำมาก็กลับบ้านปกติ
เมื่อวานออกจากบ้านไปก็ยังคุยเล่นกับหลานๆปกติ แต่ไม่กลับบ้านไม่สามารถติดต่อได้โทรศัพท์ไปก็ไม่รับต่อมาก็ปิดเครื่อง จนกระทั่งดึกตนและญาติๆจึงพากันขับรถตระเวนตามหาทั่วเมืองลำพูนแต่ไม่พบ และเตรียมตัวไปแจ้งความคนหายในช่วงสายวันนี้ แต่ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ก่อนจึงเดินทางมาดูก็พบว่าน้องยุ้ยหลานวสาได้เสียชีวิตดังกล่าว
ทางด้านนายโมลิต แก้วสัก อายุ 49 ปี ชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ใกล้บริเวณที่เกิดเหตุและเป็นผู้พบศพคนแรก กล่าวว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 10.00 น.เห็นรถเก๋งคันนี้ขับมาจอดช่วงแรกก็ไม่ได้สนใจ จนกระทั้งเวลาประมาณ 2 ทุ่มกว่าก็ยังจอดอยู่และเปิดติดเครื่องไว้ตนเองก็เข้าใจว่าคงจอดโทรศัพท์ จนกระทั้งสายวันนี้ก็เห็นจอดอยู่ที่เดิมจึงเดินไปดูและเคาะกระจกเรียกแต่ไม่ยอมตื่น ไม่มีการตอบสนองใดๆจึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบดังกล่าว

(ทีมข่าวขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิตด้วยกับเหตุการณ์ที่สูญเสียครั้งนี้)

ทีมข่าว อาชญากรรมรายงาน

(สงวนลิขสิทธิ์ภาพข่าวและเนื้อหาข้อมูลทั้งหมด)