สสจ.ลำพูนสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบต้นตอแมลงวันอ่างแม่วังส้าน จ๊ะเอ๋แหล่งเพาะแมลงวันสั่งแก้ไขด่วน
สสจ.ลำพูนสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบต้นตอแมลงวันอ่างแม่วังส้าน จ๊ะเอ๋แหล่งเพาะแมลงวันสั่งแก้ไขด่วน
วันที่ 5 สิงหาคม 2565 นายสุผล ตันติยะนันทพร นายแพทย์สาธารณะสุขจังหวัดลำพูน หลังทราบข่าวจากสื่อมวลชน ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบ กรณีการนำเสนอข่าวผู้ประกอบการซุ้มขายอาหารบริเวณอ่างเก็บน้ำแม่วังส้าน ตำบลนครเจดีย์ อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน ได้รับความเดือดร้อนจากแมลงวันจำนวนมากที่บินมาตอมไต่อาหาร ต้องแก้ไขปัญหาเบื้องต้นด้วยการกางมุ้งให้ลูกค้านักท่องเที่ยว และใช้กาวดักแมลงวัน แต่ก็สุดจะต้านเพราะมีแมลงวันจำนวนมาก ไม่รู้จะแก้ไขอย่างไร ทำให้เกิดผลกระทบ ลูกค้านักท่องเที่ยวที่มาประจำรวมถึงนักท่องเที่ยวหนีหายไปไม่มา ทำให้เกิดผลกระทบ ตามที่มีการโพสต์ลงโซเซี่ยลและนำเสนอไปแล้วนั้น
ส่วนสาเหตุนั้นเป็นที่คาดกันว่าเกิดจากกระบวนการผลิตปุ๋ยขี้ไก่ขอผู้ประกอบการ 2 แห่งที่ตั้งอยู่ใกล้บริเวณอ่างเก็บน้ำแม่วังส้าน ซึ่งมีการนำเสนอข่าวดังกล่าวไปแล้วนั้น และต่อมาผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามเรื่องดังกล่าวจากนักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่งที่มีการถูกกล่าวถึงว่าเป็นผุ้ประกอบการทำโรงผลิตปุ่ยขี้ไก่ดังกล่าว ทำให้นักการเมืองท้องถิ่นไม่พอใจ มีการพูดจาเชิงข่มขู่ผ่านผู้สื่อข่าวว่าถ้าโรงงานหยุดคนขายอาหารก็ต้องหยุดเหมือนกัน พร้อมกับถามว่าใครคนไหนที่ร้องเรียน ผู้สื่อข่าวตอบว่าเห็นการโพสต์ในโซเซี่ยลจึงได้ติดตามเรื่องดังกล่าวมาทำข่าว นอกจากนั้นนักการเมืองคนดังกล่าวยังพูดจาในทำนองไม่สนใจและพูดจายียวนทำนองขู่นักข่าวอีกด้วย ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมและไม่ถูกต้อง เพราะถ้าหากมีจิตสำนึกในการทำงานเพื่อชาวบ้าน ทำเพื่อประชาชนจริงๆเมื่อพบปัญหาต้องไปพบชาวบ้านและหาทางออกร่วมกันในการแก้ไขปัญหา ไม่ใช่พูดจาในทำนองข่มขู่อาฆาตมาตรร้ายชาวบ้านมันเป็นสิ่งที่น่าอาย และไม่มีจิตสำนึกในการอยู่ร่วมกันในสังคมกับประชาชนผู้เสียภาษี แทนที่จะส่งเสริมให้ชาวบ้านมีอาชีพมีงานทำในท้องถิ่น และส่งเสริมการท่องเที่ยวกลับทำให้เกิดปัญหาเสียเอง เมื่อมีปัญหาแล้วกลับไม่สนในแก้ไข จนกระทั่งเจ้าหน้าที่มาสั่งให้แก้ไข
ซึ่งเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องได้ตรวจสอบกิจการทำปุ๋ยขี้ทั้ง 2 แห่งที่อยู่ใกล้เคียงอ่างเก็บน้ำแม่วังส้าน บริเวณโดยรอบ 1-2 กิโลเมตรพบว่ามีการใช้สถานที่(ส่วนบุคคล)ไม่ได้ขอประกอบกิจการโรงงาน มีไว้สำหรับตากขี้ไก่บริเวณกว้าง รายแรกพบว่ามีแมลงวันจำนวนหนึ่งแต่ไม่มากนัก เพราะใช้แกลบกลบหน้าดิน และใช้ยาพ่นวันเว้นวัน จึงมีแมลงวันจำนวนน้อย ส่วนปัญหาแมลงวันอีกจุดหนึ่งมาจากการที่ชาวบ้านนำขยะมาทิ้งในป่า และบริเวณที่ลับตาก็เป็นปัญหาอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดแมลงวัน หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปตรวจสอบโรงทำปุ๋ยขี้ไก่ของนักการเมืองท้องถิ่นก็พบว่า มีกองขยะจากเปลือกไข่ที่ใช้ผสมทำปุ๋ยขี้ไก่ ทำปุ๋ยสำหรับมันสำปะหลังและปุ๋ยอ้อย ส่งกลิ่นเหม็นและเป็นแหล่งเพาะพันธุ์แมลงวัน
เจ้าหน้าที่ได้แนะนำให้ผู้ประกอบการทั้ง 2 ราย ให้ดูแลทำความสะอาดพื้นที่ การเก็บขี้ไก่ใส่กระสอบปุ๋ย การใช้แกลบปกปิดรวมถึงการพ่นยาเพื่อป้องกันแมลงวันมาวางไข่ นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ยังเน้นย้ำให้กิจการของนักการเมืองท้องถิ่น ต้องจัดทำโรงเรือนพลาสติกใสที่พักขยะเปลือกไข่ที่ไม่ใช้แล้วชนิดแบบปกปิดป้องกันการเพาะพันธุ์แมลงวันก่อนนำไปกำจัดที่ถูกต้องตามหลักการต่อไป โดยนักการเมืองท้องถิ่นเจ้าของกิจการดังกล่าว ยอมรับข้อเสนอและจะดำเนินการจัดทำโรงเรือนพลาสติกใส ภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคาม 2565 และจะถ่ายรูปโรงเรือนดังกล่าวส่งให้กับเจ้าหน้าที่ และเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามผลหลังการปรับปรุงแก้ไขดังกล่าวต่อไป
ทีมข่าวเฉพาะกิจ รายงาน