ไปไม่รอด..! อดีตตำรวจป่าไม้ ผู้ต้องหาฆ่าเผานั่งยางขับรถมามอบตัวก่อนหมายจับออก สารภาพสิ้นโมโหลูกน้องเก่ามือไว

ไปไม่รอด..! อดีตตำรวจป่าไม้ ผู้ต้องหาฆ่าเผานั่งยางขับรถมามอบตัวก่อนหมายจับออก สารภาพสิ้นโมโหลูกน้องเก่ามือไว

ลำพูน ผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าเผานั่งยางหนุ่มชาวสวนเข้ามอบตัว

อดีตตำรวจป่า ไม้ผู้สงสัยฆ่านั่งยางหนุ่มชาวสวน ต.ต้นธง อ.เมือง ลำพูน เดินทางเข้ามอบตัว หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนฯ กดดันหนัก ด้านผู้ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ลำพูน รุดสอบปากคำเผย ผู้ต้องหารับสารภาพ ลงมือลงมือฆ่าผู้ตายเนื่องจากบันดาลโทษะ หลังผู้ตายถกเถียงกันเรื่องขโมยของในสวนหลายครั้ง ก่อนจะใช้ท่อนไม้ตีศีรษะ จนตายก่อนจะลากศพขึ้นรถมอเตอร์ไซค์พ่วงนำไปเผานั่งยางบริเวณดังกล่าว เจ้าหน้าที่ 2 ข้อหาหนัก ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และปิดบัง ซ่อนเร้นอำพรางศพ และคัดค้านการให้ประกันตัว

ความคืบหหน้าคดีที่มีผู้พบศพของชายถูกเผานั่งยางภายในสวนลำไย บ้านจักรคำภิมุก หมู่ที่ 7 ตำบลต้นธง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน และทราบชื่อผู้เสียชีวิตในเวลาต่อมาคือนายวุฒิไกร หิรัญรัตน์ อายุ 37 ปี ชาวบ้านสันมะนะ ตำบลต้นธง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน บุตรชายนายเกตุ หิรัญรัตน์ อายุ 59 ปี ซึ่งนายวุฒิไกร ได้หายตัวออกจากบ้านไปตั้งแต่ช่วง 2 ทุ่มเศษคืนวันที่ 27 พ.ค.65 ที่ผ่านมา จนกระทั่ง พบศพถูกเผานั่งยางเสียชีวิตและพบรถจักรยานยนต์ถูกนำไปทิ้งหนองน้ำ ห่างจากที่ถูกเผานั่งยางประมาณ 200 เมตร

หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลำพูน ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกับประสานแพทย์เวรโรงพยาบสาลลำพูน และเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจภูธร จ.ลำพูน ลงพื้นที่เก็บวัตถุพยานหลักฐาน ในที่เกิดเหตุ ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตำรวจภูธร จ.ลำพูน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตำรวจภูธร ภาค 5 ลงพื้นที่หาข่าวได้พยานหลายสิบคน และได้หลักฐานเป็นกล้องวงจรปิด หลายจุดจนทราบว่าผู้ต้องสงสัยคืออตีดตำรวจนายหนึ่งซึ่ง เป็นเจ้าของสวนลำไยในที่เกิดเหตุ

พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รองผู้บัญชาการตำรวจภาค 5 และ พล.ต.ต.มงคล สัมภวะผล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองลำพูน ได้ควบคุมตัวอดีตตำรวจคนหนึ่งมาสอบสวนนานกว่า 3 ชั่วโมง ซึ่งเจ้าตัวให้การปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็นเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพียงแต่มีบ่อปลาและสวนลำไยอยู่บริเวณนั้นเท่านั้น นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนยังได้เชิญตัวผู้ใกล้ชิด ญาติๆของผู้เสียชีวิต ญาติของผู้ต้องสงสัย และเพื่อนผู้เสียชีวิตที่โทรศัพท์ติดต่อกันก่อนเสียชีวิตน.เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปขอหมายศาลจังหวัดลำพูน เพื่อขอหมายเข้าตรวจค้นบ้านของผู้ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัย เมื่อได้พยานหลักฐานหลายอย่างมาประกอบกันจึงได้เรียกตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำวันนี้อีกครั้งโดยนัดหมายกันช่วงเช้าแต่ผู้ต้องสงสัยยังไม่เดินทางมา

ล่าสุดเย็นวันนี้ นายเกษม ปัญญาพุฒิ อายุ 64 ปี อดีต ตำรวจป่าไม้ ยศร้อยตำรวจโท ได้เดินทางมามอบตัวกับพล.ต.ต.มงคล สัมภวะผล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองลำพูน หลังจากนั้นผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ลำพูน ได้เข้าสอบปากคำหมวดเกษมฯ นานกว่า 3 ชั่วโมง

ด้านผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน เปิดเผยว่าหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวน ตำรวจภูธร จ.ลำพูน ชุดสืบสวนภาค 5 และชุดสืบสวน สภงเมืองลำพูน ได้กดดันผู้ต้องสงสัยอย่างหนัก รวมถึงการค้นหาติดตามตัว การเร่งรวบรวมทั้งพยานหลักฐาน เพื่อออกหมายจับ  แต่ผู้ต้องหารู้ตัวว่าไปไม่รอด จึงได้เดินทางเข้ามามอบตัวหลังจากสอบปากคำทราบว่า ผู้ตายเป็นอดีตลูกน้องที่มาช่วยทำงานในสวน คืนเกิดเหตุ ได้เดินทางไปรับนายเอก ที่บ้านป้าทอง ในหมู่บ้านจักคำภิมุข เพื่อสอบถามข้อมูลเรื่องการขโมยของ ขโมยเงินก่อนที่ผู้ต้องจะพาตัว นายเอก นั่งรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างมาที่สวนเพื่อสอบถามเรื่องที่ขโมยของ เงิน และปลาในสวนหลายครั้งจนทั้งสองเกิดการโต้เถียงกันขึ้น ผู้ต้องหาจึงเกิดความโมโหใช้ท่อนไม้ทุนเข้าที่หัวนายเอก จนล้มลงและทุนซ้ำอีกหลายครั้งจนเสียชีวิต หลังจากที่นายเอกตาย ได้นำร่างนายเอกขึ้นรถพ่วงโดยใช้ผ้าเต้นท์ห่อร่างนำไปทิ้งจุดที่พบศพ ก่อนจะออกไปหายางรถยนต์ น้ำมัน เศษไม้กลับมาเผาร่างนายเอก จนไหม้เกรียม ก่อนที่จะย้อนกับไปเอารถมอเตอร์ไซค์นายเอกที่บ้านป้าทองมาทิ้งลงหนองน้ำแล้วกลับเข้าบ้านทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนช่วงสายคนงานขับรถแบคโฮ มาพบศพผู้ตายถูกไฟไหม้ดำเป็นตอตะโก หลังจากสอบสวนผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุฆ่านายเอกจริง เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และปิดบัง ซ่อนเร้นอำพรางศพ และคัดค้านการให้ประกันตัว และนำตัวฝากศาล จ.ลำพูน ตามขั้นตอนต่อไป