พลเมืองดีเผยเด็กหญิงวัย 14 ปีที่หนีออกจากบ้านตอนแรกที่เจออยู่ในอาการผวานั่งร้องไห้กอดเสาไฟฟ้า เจ้าหน้าที่เตรียมลงพื้นที่สอบสวนข้อเท็จจริง
พลเมืองดีเผยเด็กหญิงวัย 14 ปีที่หนีออกจากบ้านตอนแรกที่เจออยู่ในอาการผวานั่งร้องไห้กอดเสาไฟฟ้า เจ้าหน้าที่เตรียมลงพื้นที่สอบสวนข้อเท็จจริง ด้านกกู้ภัยเผยเด็กบอกอาหารที่ชอบคือข้าวกับไข่ดาวก่อนหนีมาอ้างทนไม่ไหวถูกพ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงที่เก็บมาเลี้ยงทำร้ายร่างกาย เจ้าหน้าที่เตรียมลงพื้นที่สอบสวน
จากกรณีที่เมื่อเวลา19.30 น.วันที่ 8 พ.ย.64 ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรเมืองลำพูน ได้รับแจ้งจาก ศูนย์วิทยุ 191 ตำรวจภูธร จังหวัดลำพูน ได้รับแจ้งจากชาวบ้านหมู่บ้านลำพูนแลนด์แอนด์เฮ้าท์ ซอย 1 ต.ต้นธง อ.เมือง จ.ลำพูน ว่าพบเด็กผู้หญิงคนหนึ่งมายืนเกาะรั้วหน้าบ้านขอความช่วยเหลือ จึงแจ้งให้ ดต.พิเชษฐ์ เตชะสี ตำรวจสายตรวจตำบลต้นธง และหน่วยกู้ภัยชมรมกู้ภัยร่วมลำพูน ไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบเด็กหญิงน้ำฟ้า (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี ยืนอยู่มีอาการหวาดกลัว ร้องไห้สะอึกสะอื้นเมื่อเห็นรถจักรยานยนต์วิ่งผ่านมาก็ตกใจกลัว ตำรวจสายตรวจพร้อมด้วยชาวบ้านจึงพากันปลอบใจ เพื่อให้คลายความวิตกกังวน ก่อนจะพาตัวไปที่ สภ.เมืองลำพูน เพื่อพบ พ.ต.ท.สมนึก อุตธิยัง สว.(สอบสวน) พร้อมกับประสานงานเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดลำพูนซึ่งการสอบถามเด็กหญิงน้ำฟ้า(นามสมมุติ) เบื้องต้นทราบว่าทั้งหนาวและหิวข้าว กู้ภัยจึงนำเสื้อผ้าพร้อมกับข้าวมาให้กิน และให้เงินไว้ติดตัว 300 บาท เพราะเด็กมีเงินติดตัวมาเพียง 40 บาท หลังจากนั้นจึงสอบถามข้อมูลเบื้องต้น โดยเด็ก ได้เล่าให้เจ้าหน้าที่ฟังว่าตนเองถูกเก็บมาเลี้ยงเดิมทีเกิดที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี แต่ตนถูกนำมาเลี้ยงที่จังหวัดลำพูน โดยอาศัยอาศัยอยู่กับพ่อเลี้ยงแม่เลี้ยง และลูกสาวของพ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงอีก 1 คน ภายในหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง(ขอสงวนชื่อ) ตั้งอยู่ตำบลป่าสัก อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน โดยตนเองไม่เคยได้รู้จักชื่อจริงนามสกุลจริงของพ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงเลย โดยเขาให้เรียกว่าพ่อและแม่เท่านั้น และได้ส่งเข้าเรียนโรงเรียนเอกชนใกล้บ้านแห่งหนึ่งโดยเรียนจนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 (ป.4) เท่านั้น พ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงก็ไม่ได้ให้ไปโรงเรียนอีกเลย และให้ตนเองมาช่วยทำงานบ้าน และรับจ้างทำงานเป็นลูกจ้างขายของในตลาดบ้างในบางครั้ง ตนเองไม่ได้ไปไหนเลยนอกจากอยู่บ้านและเดินไปซื้อของที่ร้านค้าปากซอยในหมู่บ้าน
เด็กหญิงน้ำฟ้า(นามสมมุติ) ยังเล่าต่อไปว่า ตนเองก็ไม่ทราบว่าพ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงทำงานอะไร แต่จะแต่งตัวออกจากบ้านไปทุกวันและกลับมาตอนดึกเกือบทุกวัน เมื่อมาถึงก็มักจะดุด่าและถูกทุบตีตนเองบ่อยครั้ง ในเรื่องการทำงานบ้านบกพร่องเช่นล้างจานไม่สะอาดบ้าง ลืมล้างจานบ้าง ลืมกวาดบ้านถูกบ้านบ้าง บางครั้งกลับมา ล่าสุดเมื่อคืนวันที่ 7 พ.ย.64 ที่ผ่านมาตนก็ถูกแม่เลี้ยงทุบตีอีก โดยใช้มือฟาดไปตามลำตัวตนเอง จนตนเองเจ็บจนทนไม่ไหว จึงคิดหาทางหลบหนีออกจากบ้าน จนกระทั่งสบโอกาสในช่วงหัวค่ำวันนี้ ตนเองจึงขอร้องให้เพื่อนบ้านที่รู้จักกันเป็นผู้หญิง บอกว่าตนเองตนไม่ไหวแล้วขอให้พาตนเองออกจากบ้านไปไหนก็ได้ เขาจึงพาตนเองเดินมาเรื่อยๆ ห่างจากบ้านประมาณ 5-6 ก.ม.แล้วคนที่มาส่งก็กลับไป จนกระทั่งเกิดหิวข้าวและกลัวไม่รู้จะไปไหนไม่รู้จะทำอย่างไร จึงไปเกาะรั้วขอความช่วยเหลือดังกล่าวทั้งนี้กรณีดักล่าว จนท.บ้านพักเด็กได้นำตัวไปอยู่ในที่ปลอดภัยและจะดำเนินการตรวจสอบว่าจะใช่เรื่องจริงตามที่เด็กกล่าวอ้างหรือไม่ตามขั้นตอนของกฎหมาย
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 9.30 น.วันที่ 9 พ.ย.64 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่หมู่บ้านลำพูนแลนด์แอนด์เฮ้าท์ พบนางพรรณอรุณ มาซาคลี อายุ 57 ปี พลเมืองดี และนายภาณุพงศ์ แซ่เลี่ยว อายุ 22 ปีกู้ภัยร่วมใจลำพูน พร้อมนำไปดูจุดที่พบเด็กหญิงรายดังกล่าว พร้อมเปิดเผยว่าเท่าที่ทราบเด็กเดินมาจากทางหลังหมู่บ้านก่อนที่จะมายืนอยู่ข้างเสาประตูหน้าบ้านเพื่อมาขอความช่วยเหลือ และต่อมาบ้านข้างๆเปิดประตูบ้านให้เด็กเข้ามาแต่เด็กก็ยังอยู่ในอาการผวากอดเสาเหล็กร้องไห้ ไม่ยอมพูดกับใครจนกระทั่งกู้ภัยกับตำรวจมา และมาทราบภายหลังโดยเด็กอ้างว่าถูกพ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงทำร้ายและจบแค่ ป.4 ก็รู้สึกสงสารเด็กอย่างมากส่วนตัวไม่รู้ว่าเด็กจะโกหกหรือไม่แต่หากเป็นเรื่องจริงถือว่าเด็กคนนี้น่าสงสารมาก
ด้านนายภาณุพงศ์ กู้ภัยร่วมใจลำพูนเผยว่าตอนที่มาเห็นเด็กอยู่ในอาการผวาอย่างมากไม่กล้าพูดกับใครจนกระทั่งเด็กผ่อนคลายลงจึงสอบถามเด็กก็บอกว่าได้ขอร้องให้คนในหมู่บ้านมาส่งที่ไหนก็ได้เพราะไม่อยากอยู่บ้าน โดยมาส่งนำส่งไว้ที่หลังหมู่บ้านดังกล่าว โดยตอนนั้นเด็กอยู่ในอาการหวาดกลัว หนาว และหิวข้าว จึงถามว่าเด็กชอบกินอะไร น้องเขาก็บอกว่าชอบกินข้าวไข่ดาวเลยทำให้คิดว่าเด็กอาจจะกินข้าวไข่ดาวเป็นประจำหรือไม่ กู้ภัยจึงได้นำเสื้อผ้าพร้อมข้าวมาให้ทาน และให้เงินไว้ติดตัวอีก 300 บาท
ทางด้านคุณนลึนี โลห์ชิงชัยฤทธิ์ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดลำพูน ตอนนี้กำลังคุยกับเด็กอยู่ แต่เนื่องจากเด็กอยู่ในสภาพเครียดทางด้านจิตใจอยู่ เลยยังไม่ได้ข้อมูลมากนัก ยังอยู่ระหว่างพูดคุยสร้างความคุ้นเคย ตอนนี้น้องยังไม่ค่อยไว้วางใจเจ้าหน้าที่ กำลังพูดคุยกันอยู่ ต้องเอาข้อมูลให้มากกว่านี้ แต่ในเบื้องต้นที่ทราบ น้องเขาถูกตีแต่ไม่รุนแรงมาก แต่ต้องดูประเด็นที่การเลี้ยงดูเหมือนไม่ใช่ลูกเหมือนเอาเด็กมารับใช้ทำงานมากกว่า น้องเขาอยู่ในครอบครัวนี้แต่ไม่ได้เรียนหนังสือ ด้านคดียังไม่ได้ดำเนินการ เย็นนี้ต้องพาน้องเขาไปดูว่าบ้านเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนอีกครั้ง
ทีมข่าวเฉพาะกิจ ศูนย์ข่าวภาคเหนือ รายงาน