พันตำรวจโทพร้อมพวกขึ้นโรงพักแจ้งความครู กศน.ตุ๋นลงทุนทองคำ เสียหายนับล้าน
พันตำรวจโทพร้อมพวกขึ้นโรงพักแจ้งความครู กศน.ตุ๋นลงทุนทองคำ เสียหายนับล้าน
เวลา 15.00 น.วันนี้( 12 พ.ค.67) ที่ สภ.เมืองลำพูน นายตำรวจระดับพันตำรวจโท (สารวัตรเอ)นามสมมุติ พนักงานสอบสวนโรงพักแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยผู้เสียหายอีก 4 ราย
พากันแจ้งความกับ ร.ต.ท.(หญิง)เพ็ญพิชชา เอื้องไพบูลย์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองลำพูน หลังจากถูกครูติ๋ว(นามสมมุติ) ซึ่งเป็นครู กศน.สังกัดในจังหวัดลำพูน หลอกให้ลงทุนทองคำค้ากำไรทองหลุดจำนำ และลงทุนออมทอง
จนสูญเงินตนเองและภรรยาจำนวนกว่า 4 แสนบาทหากรวมกับเพื่อนๆและผู้เสียหายคนอื่นๆคาดว่ามากว่า 1 ล้านบาท
สารวัตรเอ เล่าพฤติการณ์ของครูนักตุ๋นรายนี้ฟังว่า ตนเองเป็นข้าราชการตำรวจและรู้จักมักคุ้นกับครูติ๋ว ซึ่งทำงานเป็นพนักงานราชการ สังกัด กศน.ในพื้นที่จังหวัดลำพูน รู้จักกันเป็นการส่วนตัวมานานกว่า 10 ปี
การร่วมลงทุนเริ่มต้นขึ้นเมื่อประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา โดยครูติ๋วได้ซักชวนตนและภรรยาร่วมลงทุนค้ากำไรจากการไถ่ถอนทองคำหลุดจำนำ โดยชวนนำเงินสดไปซื้อทองคำที่กำลังจะหลุดจำนำ เพื่อนำไปขายต่อ
ในช่วงแรกๆเมื่อลงทุนไปหลักหมื่น ใช้เวลาไม่กี่วันก็ได้ทั้งเงินต้นและกำไรโอนคืนมา แล้วก็ชวนลงทุนแบบนี้สัปดาห์ละ 1 ครั้งบ้าง 2 ครั้งบ้าง ก็ได้เงินคืนมาโดยตลอด จนกระทั้งถึงเดือนเมษายน ก็จะห่างการลงทุนจาก 1 สัปดาห์เป็น 10 วันบ้าง
15 วันบ้าง ก็เริ่มเอะใจเพราะยังไม่ได้เงินคืนทั้งต้นทั้งกำไร รวมเป็นเงินร่วม 4 แสนบาท พอถึงต้นเดือนพฤศภาคม ที่ผ่านมาก็เงียบหายไปขาดการติดต่อ ที่ทำงานก็ไม่ไป พอตามไปที่บ้านที่บ้านที่ อำเภอบ้านธิ ก็พบเพียงพอแม่ของครูติ๋ว
สองตายาย ส่วนครูติ๋วทราบว่าขนของย้ายหนีไปที่ไหนก็ไม่มีใครทราบ พอไปสืบข้อมูลมาพบว่าครูติ๋มมีพฤติการณ์หลอกลวงเหยื่อหลายราย นอกจากซักชวนกลุ่มของตนเองแล้วยังมีผู้เสียหายทั้งคนแก่ ข้าราชการเกษียน
เกือบทุกวงการ นอกจากนั้นการหลอกลวงยังมีอีกหลายรูปแบบ เช่นชวนลงทุนออมทอง การแอบอ้างสนิทสนมกับวัดดังหลอกว่าจะเอาพระรอดทองคำไปจำหน่ายเพื่อเก็งกำไรอีกด้วย
ตนจึงแน่ใจว่าถูกโกงแน่ๆจึงรวมตัวกันมาแจ้งความ ซึ่งวันนี้มีผู้เสียหายเพียงบางส่วนเท่านั้นที่เดินทางมาแจ้งความยังจะมีทยอยมาอีกเท่าที่ทราบมีมากกว่า 10 ราย มูลค่าความเสียหายคาดว่าน่าจะเกิน 2 ล้านบาท
ซึ่งตัวเลขต้องรอความชัดเจนจากผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่ออีกครั้งว่า มีผู้เสียหายไปแจ้งความกี่รายยอดเงินแต่ละคนไม่เท่ากันบางคนเป็นล้าน บางคนหลักหมื่น