หนุ่มโรงกลึงถูกหลอกลงทุนออนไลน์เงินไม่พอปิดบัญชีคิดสั้นวิ่งราวสร้อยทองร้านทองในห้างดัง
ลำพูน หนุ่มโรงกลึงถูกหลอกลงทุนออนไลน์เงินไม่พอปิดบัญชีคิดสั้นวิ่งราวทองร้านทอง
หนุ่มช่างโรงกลึงถูกหลอกลงทุนออนไลน์เงินไม่พอปิดบัญชียอด 2.6 แสนบาท ขาดเงินไป 1.2 แสน นำสร้อยคอทองคำไปจำนำ ขอยืมเงินญาติ เพื่อเบิกเงินในยอดแต่ยังไม่พอคิดสั้นชิงสร้อยคอทองคำจากร้านทองชื่อดังในห้างสรรพสินค้าวิ่งหลบหนีถูกสายตรวจ สภ.นิคมอุตสาหกรรมลำพูน และ รปภ.ห้างฯ ตามจับได้ทันควัน ขณะให้การเจ้าหน้าที่ยังขอยืมเงินตำรวจเพื่อโอนเงินปิดบัญชี
เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.นิคมอุตสาหกรรม ควบคุมตัวนาย N นามสมมุติ อายุ 30 ปี ชาวบ้านขัวแคร่ ตำบลศรีบัวบาน อ.เมือง จ.ลำพูน ส่งพันตำรวจโท บวรชต (บะวอนระชะตะ) มายะลา สารวัตรสอบสวน สภ.นิคมอุตสาหกรรมจังหวัดลำพูน หลังนาย N ได้ก่อเหตุ วิ่งราวชิงสร้อยคอทองคำ ในร้านขายทองเยาวราชกรุงเทพ สาขาลำพูน เมื่อช่วงคำที่ผ่านมาจากการตรวจค้นพบของกลางเป็นสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 3 บาทที่วิ่งราวมาจากร้านทองดังกล่าว ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำนายNฯ เบื้องต้นทราบว่าได้ขับรถกระบะนิสสัน นาวาร่า สีบรอนซ์มาจอดไว้ที่ลานจอดรถห้างบิ๊กซีหลังก่อเหตุได้ทิ้งรถคันดังกล่าวไว้ เจ้าหน้าที่จึงนำรถดังกล่าวมาตรวจค้น พบสร้อยคอทองคำ 1 เส้นอยู่ในรถทราบว่าเป็นสร้อยคอทองคำของแฟนสาว และเตรียมนำไปจำนำเพื่อเติมเงินในระบบลงทุนออนไลน์ เพื่อปิดบัญชีถอนเงินทั้งหมด
ขณะที่พันตำรวจเอกปริญญา ชัยเววา ผู้กำกับการ สภ.นิคมอุตสาหกรรมจังหวัดลำพูน ได้นำตัวผู้ต้องหาไปสอบสวนโดยละเอียด ซึ่งนายNให้การว่าก่อนหน้าประมาณ 3 วันตนเอง ได้ลงทุนด้านการเงินออนไลน์ ครั้งแรกเป็นเงิน 100 บาท หลังจากนั้นได้เติม 2 พัน และ 5 พัน 2 หมื่นบาท ตามลำดับ เพื่อเก็งกำไรระยะสั้น โดยเติมเงินผ่านแอพพิเคชั่น Ali Express ต้องมียอดเงินและกำไรตามที่กำหนดไว้ถึงจะสามารถถอนเงินออกจากระบบได้ เมื่อยอดเงินในบัญชีของนายบอยฯที่ลงทุนไว้มีประมาณ 1.5 แสน ยังไม่พอในการถอนเงินขาดไป 1.2 แสนบาท นายบอย จึงนำสร้อยคอทองคำของแฟนสาว และได้ยืมเงินญาติผู้ใหญ่ อีก 5 หมื่นบาท แต่เงินยังไม่พอและทางบริษัทจะอายัดเงินไม่สามารถถอนเงินได้ในวันนี้ ด้วยความที่ร้อนใจต้องการนำเงินไปไถ่สร้อยคอทองคำให้ภรรยา และนำเงินไปคืนญาติ จึงตัดสินใจเข้าไปร้านทองร้านดังกล่าวเพื่อชิงทองนำไปขายเพื่อให้ได้เงินครบจำนวนในการปิดยอดและถอนเงินจำนวน 264,653 บาทที่อยู่ในแอพพลิเคชั่น เพื่อจะนำเงินไปคืนญาติที่ยืมมาต่อไป
ขณะที่ พันตำรวจโทมรกต ศิริชัย รอง ผู้กำกับการสืบสวน สภ.นิคมอุตสาหกรรมจังหวัดลำพูน กำลังสอบปากคำนาย Nฯ อยู่ผู้ต้องหายังไม่รู้ตัวว่าถูกหลอกลงทุนออนไลน์ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำโทรศัพท์มือถือมาให้เปิดแอพพลิเคชั่นดังกล่าวให้เจ้าหน้าที่ดู นายN ได้ โชว์ยอดเงินในแอพพลิเคชั่นให้ดู พร้อมกับได้ขอยืมเงินตำรวจ 5 พันบาท เพื่อจะรวบรวมเงินที่เหลือไปปิดบัญชีและหลังจากนั้นจะถอนเงินมาคืนให้ภายหลัง ทำให้เจ้าหน้าที่ได้พูดจาเกลี่ยกล่อมอยู่นานและพยามยามอธิบายว่า ถูกแก๊งค์คลอเซ็นเตอร์หลอกแล้วแต่ผู้ต้องหายังยืนว่าเพื่อนที่รู้จักกันคุ้นเคยกันเคยลงทุนการเงินกับแอพพลิเคชั่นนี้ได้เงินคืนพร้อมกำไรมาแล้วตนก็ยังเชื่อว่าจะได้เงินคืน หลังสอบปากคำนาย N ก็ยังไม่เชื่อว่าตนเองถูกหลอก เจ้าหน้าที่จึงยุติการสอบสวนและพูดคุย หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปบันทึกจับกุมแล้วแจ้งข้อหาวิ่งราวทรัพย์ ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.นิคมอุตสาหกรรมดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป