ดราม่านักข่าวลำพูนบอยคอต รางวัลขวัญใจช่างภาพและสื่อมวลชน ในงานฤดูหนาว ประจำปี 2566 เพราะเหตุนี้
ดราม่านักข่าวลำพูนบอยคอต รางวัลขวัญใจช่างภาพและสื่อมวลชน ในงานฤดูหนาว ประจำปี 2566 เพราะเหตุนี้
จากกรณีที่จังหวัดลำพูน ได้จัดงานสักการะพระนางจามเทวีและงานฤดูหนาว ประจำปี 2566 ระหว่างวันที่ 1-10 ธันวาคม 2566 โดยแต่ละคืนจะมีการจัดกิจกรรมต่างๆรวมถึงการแสงดของศิลปินนักร้องและจำหน่ายสินค้าต่างๆ และหนึ่งในกิจกรรมที่ขาดไม่ได้ คือการจัดการประกวดนางสาวลำพูน เพื่อคัดเลือกสาวงามเป็นตัวแทนของจังหวัดลำพูนในการช่วยกันเผยแพร่ประชาสัมพันธ์กิจกรรมต่างๆรวมถึงเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดลำพูน
ซึ่งการจัดการประกวดนางสาวลำพูนนั้น ก็จะมีผู้รับเหมาจัดหรือออแกไนท์ เป็นผู้รับผิดชอบโดยมีสำนักงานท้องถิ่นจังหวัดเป็นคนต้นเรื่องจัดกิจกรรมร่วมกับฝ่ายปกครองและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาจะมีข้าราชการคนหนึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการทำงานและการประสานงานต่างๆ แต่เนื่องจากปีนี้ข้าราชการคนดังกล่าวได้ถูกคำสั่งให้ย้ายไปจังหวัดอื่นเนื่องจากมีปัญหาการทำงานภายในองค์กร ทำให้ปีนี้ขาดคนทำงานที่มีประสบการณ์ รวมถึงผู้ประสานงานที่ดี
โดยปัญหาเริ่มจากการจัดการประชุมที่ขาดการประสานงานหลายภาคส่วนที่เคยมีส่วนร่วมปีนี้ไม่มีการเชิญหรือติดต่อเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรรมรวมถึงสื่อมวลชนด้วย การประชุมแต่ละครั้งไม่มีการเชิญสื่อมวลชนเข้าร่วม อีกทั้งรางวัลขวัญใจช่างภาพและสื่อมวลชนจากที่เคยตั้งมาตรฐานรางวัลไว้ที่ 1 หมื่นบาท พร้อมสายสะพายและถ้วยรางวัล แต่ในปีนี้ลดรางวัลลงเหลือเพียง 5 พันบาท ซึ่งทางสื่อมวลชนได้มีการท้วงติงไปแล้วว่าไม่เหมาะสมและไม่สมศักดิ์ศรี รางวัลดูด้อยค่าลงไป เพราะในยุคสมัยนี้ทุกอย่างมีต้นทุนที่สูงขึ้น แต่หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกลับไม่ให้ความสำคัญ และไม่ฟังเสียงทัดทานจากสื่อมวลชน และมีการแจ้งในที่แถลงข่าวแล้วว่าควรเพิ่มรางวัลอีก 5 พันบาทเป็นหนึ่งหมื่นบาท แต่ไร้การตอบรับจากผู้รับผิดชอบ โดยอ้างว่าได้ประกาศไปแล้วแก้ไขไม่ได้ นั่นแสดงให้เห็นว่าผู้รับผิดชอบไร้ศักยภาพในการทำงาน เพราะการประสานงานในการขอสนับสนุนรางวัลไม่ยากเลย หากคณะผู้จัดมีศักยภาพเพียงพอไม่สนใจขอเพียงแค่จัดให้พ้นๆไปเท่านั้น
การแต่งตั้งกรรมการในส่วนของสื่อมวลชน ไม่มีการเตรียมความพร้อม สื่อมวลชนพึ่งได้รับแจ้งให้ไปเป็นกรรมการตัดสินก่อนวันงานเพียงแค่วันเดียวและไม่มีหนังสือแต่งตั้งอย่างเป็นทางการเหมือนกับคณะทำงานด้านอื่นๆ แสดงว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้ให้ความสำคัญกับสื่อมวลชน นอกจากนั้นยังมีการเชิญ ดีเจนักจัดรายการและช่างภาพอิสระเข้ามาในส่วนของสื่อมวลชนเพื่อเตรียมการลงชื่อว่าเป็นสื่อมวลชนเพื่อลงคะแนนเลือกคัดเลือกขวัญใจช่างภาพและสื่อมวลชน อีกทั้งยังมีการตั้งหัวหน้าส่วนราชการและข้าราชการเข้ามาเป็นกรรมการในส่วนของสื่อมวลชนอีกด้วย ทำให้สื่อมวลชนรู้สึกอึดอัด เพราะแต่เดิมนั้นการคัดเลือรางวัลขวัญใจช่างภาพและสื่อมวลชนที่ถือธรรมเนียมปฏิบัติมา เป็นหน้าที่ของนักข่าวตัวจริง ที่สังกัด หนังสือพิมพ์ และสื่อมวลชนที่เป็นสตริงเกอร์ของสถานีโทรทัศน์เท่านั้น ไม่มีนักจัดรายการ ไม่มีสื่อโซเซี่ยล ไม่มีหัวหน้าส่วนราชการมากำกับ เพราะการคัดเลือกตำแหน่งขวัญใจช่างภาพและสื่อมวลชนต้องปราศจากการครอบงำหรือชี้นำใดๆ ตำแหน่งนี้จึงมีความสำคัญไม่น้อยกว่าตำแหน่งอื่น เพราะหมายถึงศักดิ์ศรีของสื่อมวลชน
ที่สำคัญอีกประเด็นหนึ่งก็คือ ปีนี้ ทางออแกไนท์หรือผู้จัดการประกวดมีการกำหนดให้สื่อมวลชนเลือกขวัญใจช่างภาพและสื่อมวลชนในรอบแรกคือรอบ 18 คน ไม่ใช่ รอบ 10 คนสุดท้าย หรือรอบ 5 คนสุดท้ายเหมือนที่เคยปฏิบัติมา ซึ่งสื่อมวลชนมีความเห็นว่าเป็นการปฎิบัติที่ไม่ถูกต้อง มีการท้วงติงไปถึงผู้จัดแต่ไม่มีการตอบกลับหรือเปลี่ยนแปลงอ้างว่าต้องทำตามที่ผู้จัดวางไว้เท่านั้น ซึ่งสื่อมวลชนเห็นว่าแบบนี้ไม่ถูกต้อง ด้วยเหตุผลว่า สมุติว่าสื่อมวลชนเลือกตำแหน่งขวัญใจช่างภาพและสื่อมวลชนแล้วหากว่าเกิดคณะกรรมการกลางที่ตัดสินนางงามเห็นต่างและผู้ได้รับตำแหน่งขวัญใจช่างภาพและสื่อมวลชนไปแล้วแต่ไม่เข้ารอบ 10 คนสุดท้ายไม่เข้ารอบ 5 คนสุดท้าย ก็เท่ากับว่าขายหน้านักข่าวตาไม่ถึงหรืออย่างไร เพราะเคยมีปีที่ผ่านมาก่อนๆนั้น เลือกแล้วได้ตำแหน่งแล้ว แต่ไม่ได้เข้ารอบ 5 คน แต่อยู่ในรอบ 10 คนสุดท้าย ก็จะทำให้นักข่าวเสียหน้าการขึ้นรับรางวับถ่ายภาพนอกจากผู้ได้รับตำแหน่ง 5 คนสุดท้ายแล้วก็ต้องมีเพิ่มนางงามที่ได้รับตำแหน่งขวัญใจช่างภาพและสื่อมวลชน อีก 1 คนรวมเป็น 6 คน ทำให้สื่อมวลชนดูด้อยค่าและไม่มีศักดิ์ศรีและถูกมองว่าตาไม่ถึง
ในอดีตที่ผ่านมาต้องให้สื่อมวลชนเลือกในรอบ 5 คนสุดท้าย เพราะผู้ที่ได้รับนรางวัลจะได้รับควบ2ตำแหน่งคือตำแหน่งที่ได้ไม่ว่าจะเป็นนางสาวลำพูนหรืออันดับรองๆลงมา และรางวัลขวัญใจช่างภาพและสื่อมวลชน บางปีก็จะเห็นตรงกันกับคณะกรรมการกลางคือผู้ที่ได้เป็นนางสาวลำพูนก็จะพ่วงกับตำแหน่งขวัญใจช่างภาพและสื่อมวลชนด้วย ทำให้รางวัลมีคุณค่าและมีศักดิ์ศรีสมกับตำแหน่งขวัญใจช่างภาพและสื่อมวลชนอีกด้วย สื่อมวลชนจึงปรึกษาหารือกันก่อนมีมติความเห็นตรงกันว่าปีนี้ไม่มีการลงคะแนนคัดเลือกขวัญใจช่างภาพและสื่อมวลชนในงานฤดูหนาวจังหวัดลำพูนปีนี้ 2566 สื่อมวลชนบางส่วนได้ทยอยเดินทางกลับเพื่อแสดงออกและร่วมกันบอยคอต ว่าไม่เห็นด้วยกับการจัดการบริหารจัดการแบบนี้ สื่อมวลชนบางส่วนยังคงเฝ้าสังเกตุการณ์จนถึงการประกวดจบสิ้น
ประเด็นนอกเหนือจากนั้นแม้จะเป็นองค์ประกอบเล็กน้อยแต่ก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่สร้่างความไม่พอใจให้กับสื่อมวลชนจังหวัดลำพูนก็คือการเก็บตัวของนางงามต่างๆก่อนการประกวด ไม่มีการแจ้งให้สื่อมวลชนมีส่วนร่วม จึงทำให้เกิดดราม่าการถ่ายรูปที่ไม่เหมาะสมเกิดขึ้น เช่นนางงามคนหนึ่งใส่ชุดแหวกขาสูงมากถ่ายภาพคู่กับพระธาตุหริภุญชัย ซึ่งถือว่าไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง เพราะพระธาตุหริภุยชัยเป็นสิ่งที่เคารพสักการะมายาวนานนับพันปี ผู้จัดต้องคำนึงถึงความเหมาะสมในการทำงานด้วย นอกจากนั้นปีนี้ผู้จัดมีการเปลี่ยนคำขวัญในการจัดการประกวดโดยไม่แจ้งให้ทราบ จากคำขวัญเดิม งามสงา่า เปี่ยมคุณค่า นางสาวลำพูน เปลี่ยนไปเป็น คุณค่านางสาวลำพูน เชิดชูผ้าหัตถศิลป์ลำพูนอย่างสร้างสรรค์ รู้รักโลกอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นคำขวัญที่ยากต่อการจดจำ และไม่มีการแจ้งให้ส่วนที่เกี่ยวข้องทราบแต่อย่างใด นอกจากนั้นพิธีกรก็มีการพูดชื่อหน่วยงานผิดพลาดหลายครั้งมีการเรียกชื่อหน่วยงานชื่อตำบลผิดพลาดหลายครั้ง จนทำให้คนดูพากันหัวเราะขบขัน นั่นแสดงถึงความรู้ความสามารถการเตรียมตัวเตรียมความในการทำงานของพิธีกรเองรวมถึงทีมงานผู้จัด และเป็นพิธีกรเดี่ยวแทนที่จะเป็นพิธีกรคู่ชายหญิง การเป็นพิธีกรเดี่ยวต้องแน่ใจว่าเก่งพอเป็นมืออาชีพพอ ความผิดพลาดสามารถเกิดขึ้นได้เสมอในการทำงาน และการผิดพลาดบ่อยๆโดยที่ทีมงานหรือใครๆก็รู้สึกเฉยๆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนทำให้นักข่าวทนไม่ไหวถึงกับลุกเดินไปหลังเวทีเพื่อบอกเตือน นั่นแสดงว่าคณะผู้จัดไม่มีศักยภาพเพียงพอในการบริหารจัดการประกวดในครั้งนี้ นอกจากนั้นข้อสังเกตุป้ายด้านหน้าเวทีคือพระรูปของพระนางจามเทวี นั้นเป็นรูปหน้าคล้ายผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าผู้จัดเอารูปแบบนี้มาเผยแพร่ได้อย่างไรแสดงให้เห็นถึงความไม่รอบคอบและไม่พร้อมในการเป็นผู้จัด และก็มีสิ่งที่น่าชื่นชมบนเสียงด่าทอ ก็คือปีนี้เวทีทำได้กว้างใหญ่ดูสวยงามเหมาะสม และสาวงามผู้เข้าประกวดก็สวยงามทุกคนรวมถึงผู้ได้รับตำแหน่งต่างๆก็เหมาะสม และมีการกำกับเวลาในการดำเนินการได้ดี
ซึ่งในปีต่อๆไปทางสื่อมวลชนจะจับตาดูและตรวจสอบตั้งแต่การจัดประมูลหาผู้รับจ้างในการรับจัดการประกวด รวมถึงตรวจสอบประวัติผู้เข้าประกวดและกลุ่มพี่เลี้ยงว่ามีการเชื่อมโยงผลประโยชน์เกี่ยวข้องกับผู้จัดการประกวดหรือไม่ รวมถึงการมีส่วนร่วมต่างของสื่อมวลชนและกลุ่มพลังมวลชนที่เคยมีส่วนร่วมแต่ไม่ได้มีส่วนร่วม รวมถึงความเมหมาะและถูกต้องการประมูลงานในการหาผู้จัดงานแสดงสินค้าการจำหน่ายสินค้าว่าเป็นไปอย่างถูกต้องและตามระเบียบข้อกฎหมายหรือไม่อย่างไร การจำหน่ายสินค้าราคาเพียงเกินจริง การจำหน่ายสินค้าคุณภาพต่ำ การจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ การมอมเมาประชาชนด้านการพนันต้องไม่เกิดขึ้น รอติดตามต่อไป
ชัด ราชวงษ์
10 ธ.ค.2566