กราบสักการะรอยพระพุทธบาทโยนกนครวัดพระธาตุดอยสะเก็ด
เชียงใหม่ กราบสักการะรอยพระพุทธบาทโยนกนครวัดพระธาตุดอยสะเก็ด
กราบสักการะรอยพระพุทธบาทโยนกนคร รอยพระพุทธบาทแห่งที่ 3 ของโลกสุดอัศจรรย์พบรอยเสมาธรรมจักรในรอยพระพุทธบาท หลังเจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสะเก็ด นิมิตเห็นแสงพุ่งขึ้นบริเวณรอยพระพุทธบาทและเดินสำรวจพบเห็นเมื่อ 13 ปี ที่ผ่านมาก่อนจะบูรณะสร้างพระพุทธมหามณฑปครอบไว้ นอกจากนี้ทางวัดพระธาตุดอยสะเก็ดขอเชิญทำบุญสร้างพระนอนที่ใหญ่เนื่องจากยังขาดปัจจัยในการก่อสร้างอยู่
วัดพระธาตุดอยสะเก็ด เป็นพระอารามหลวงชั้นตรีชนิดสามัญ สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ ต.เชิงดอย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ เป็นวัดเก่าแก่ที่มีอายุไม่น้อยกว่า 500 ปี ซึ่งดินแดนแถบนี้ เคยได้รับการเรียกขานว่า “แคว้นโยนก”ตำนานเล่าว่า ในสมัยพุทธกาลพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสรู้แล้ว พระองค์ได้ออกเดินทางเผยแพร่ธรรมะในแถบดินแดนชมพูทวีป ได้แสดงปาฏิหาริย์มาปรากฏกายทิพย์ ณ บนยอดดอยแห่งนี้ แล้วทรงเปล่งพระฉัพพรรณรังสีสว่างเจิดจ้าไปทั่วบริเวณ เมื่อพญานาคคู่หนึ่งที่อาศัยอยู่ในหนองบัว ได้เห็นฉัพพรรณรังสีจึงเลื้อยขึ้นสู่ยอดดอยแลเห็นพระพุทธองค์ จึงเกิดความเลื่อมใสแปลงกายเป็นชายหนุ่มหญิงสาวมาเข้าเฝ้า พร้อมกับได้นำดอกบัวมาถวาย พระพุทธองค์ทรงรับเอาดอกบัวนั้นไว้แล้วจึงแสดงธรรมโปรดและประทานเกศาธาตุแก่พญานาคแปลงคู่นั้น พญานาคจึงได้อธิษฐานสร้างเจดีย์หิน แล้วนำเอาพระเกศาธาตุบรรจุไว้บนดอยแห่งนี้ ต่อมาได้มีนายพรานาได้มาพบเห็นเจดีย์มีลักษณะสวย ได้ได้นำเอาก้อนหินมาก่อเป็นรูปเจดีย์ขึ้น กลางคืนได้นิมิตทราบว่าเจดีย์นี้บรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า จึงบอกกล่าวประชาชนในแถบนั้นให้มาสักการบูชา เรียกภูเขานั้นว่า ดอยเส้นเกศ ต่อมาเพี้ยนมาเป็น ดอยสะเก็ด
ต่อมาทางคณะกรรมการวัดและศิษยานุศิษย์ ได้จัดสร้างศาสนสถานหลายแห่งเช่นพระพุทธมหาจักพรรดิ หรือหลวงพ่อพระเจ้าเศรษฐีเก้าล้านโกฏิเป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่สร้างด้วยทองเหลืองประดับด้วยพลอย 4,600 เม็ด สร้างถวายพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา
อีกจุดเป็นพระพุทธบาทโยนก” ซึ่งอยู่บนยอดดอยสะเก็ด ตั้งอยู่บนเชิงดอยโพธิรังสี ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของวัดพระธาตุดอยสะเก็ด เป็นรอยพระพุทธบาทที่พระราชโพธิวรคุณ รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าอาวาสวัดดอยสะเก็ดพบเมื่อปี 2553 นิมิตเห็นแสงพุ่งขึ้นบริเวณดังกล่าว รอยพระพุทธบาทแห่งนี้เป็นรอยพระพุทธบาทคู่มีความยาว 31 ซม.เป็นรอยพระพุทธบาทที่เหมือนจริงที่สุดเมื่อตรวจสอบตามสเกลพบว่ามีขนาดใกล้เคียงความสูงกับองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทั้งนี้ รอยพระพุทธบาทบนยอดดอยสะเก็ด สันนิษฐานกันว่า มีมาพร้อมกับเส้นพระเกศาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่บรรจุอยู่ในพระเจดีย์วัดพระธาตุดอยสะเก็ด ซึ่งตามตำนานที่ปรากฏอยู่ควบคู่ประวัติความเป็นมาของวัด ระบุว่า สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เคยเสด็จมา ณ ดอยแห่งนี้ โดยขณะนั้นมีพญานาคสองตนคู่สามีภรรยา ได้แปลงร่างเป็นมนุษย์ นำดอกบัวจากบึงบัวที่อยู่หน้าดอยด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ มาถวายพระพุทธองค์ และสถานที่ถวายดอกบัวนั้น น่าจะเป็นจุดที่พระพุทธองค์ได้ทรงอธิษฐานประทับรอยพระพุทธบาทไว้ด้วย เป็นรอยพระบาทคู่ มีรูปพระธรรมจักร ปรากฏอยู่ในรอยพระบาททั้งสองข้าง
นอกจากดวงตราพระธรรมจักร ในรอยพระบาทยังมีลายเอ็นเส้นก้านใบบัวปรากฏอย่างเด่นชัด ติดต่อขึ้นมาถึงบนหินข้างพระบาท ต่อเนื่องเป็นอันเดียวกัน จึงสันนิษฐานว่า พญานาคสองสามีภรรยา นอกจากจะได้ถวายดอกบัวแล้ว ยังได้ปูใบบัวถวายให้ประทับยืน เมื่อพระพุทธองค์ทรงประทับยืนบนใบบัวแล้ว ได้ทรงอธิษฐานเหยียบประทับรอยพระบาทลงไป ทั้งใบบัวและหินภูเขาก็ยุบลงเป็นรอยพระบาท และหินภูเขานั้นก็นูนปลิ้นขึ้นมาเหมือนโคลนข้างพระบาท และใบบัวนั้นก็กลายเป็นหินไปด้วย เพราะฉะนั้น รอยพระบาทนี้จึงประทับอยู่บนหินสองชั้น คือหินชั้นบนเป็นหินใบบัว และหินชั้นล่างเป็นหินเขาธรรมชาติ โดยหินทั้งสองนี้แนบติดเป็นเนื้อเดียวกัน เป็นที่น่าอัศจรรย์
นอกจากนี้คณะกรรมการวัดพระธาตุดอยสะเก็ดยังได้จัดสร้างพระนอนองค์ใหญ่ที่เชิงตั้งอยู่บนเชิงดอยโพธิรังสี หันพระพักต์ทางทิศเหนือ เดิมมีกำหนดการก่อสร้างให้เสร็จภายในปีนี้เพื่อใช้ประกอบพิธีสวดมนต์ข้ามปีแต่ทางวัดยังขาดปัจจัย หากท่านใดมีความประสงค์จะร่วมทำบุญสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ พระมหาสุชาติ 089-7194553