นายร้อยหน้าลิฟต์..!รับทราบข้อกล่าวหาให้การภาคเสธฯพร้อมสู้คดีในชั้นศาล

นายร้อยหน้าลิฟต์..!รับทราบข้อกล่าวหาให้การภาคเสธฯพร้อมสู้คดีในชั้นศาล
วันนี้( 12 มิย.66) ที่ สภ.นิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ จ.ลำพูน พ.ต.ท.บวรรัชฎะ มายะลา สารวัตรสอบสวน ได้เรียกตัวนายเอก (นามสมมุติ)มารับทราบข้อกล่าวหา มาตรา 145
ข้อหาผู้ใดแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานและกระทำการเป็นเจ้าพนักงานโดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจกระทำการนั้นต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 337 ข้อหา ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้ยอมให้หรือยอมจะให้ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินโดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือโดยข่มขู่ว่า จะทำอันตรายต่อชีวิตร่างกายเสรีภาพชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกขู่เข็นหรือของบุคคลที่สามจนผู้ถูกข่มขืนใจยอมเช่นว่านั้น
ผู้นั้นกระทำความผิดฐานกรรโชก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี และปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท
สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายเป้นเจ้าของร้านลาบจำนวน 2 แห่ง ได้แจ้งความดำเนินคดีกับชายหัวเกรียนอ้างเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบลูกน้องนายตำรวจชุดสืบสวน มีพฤติกรรมตระเวนไปตามร้านอาหารต่างๆย่านนิคมอุตสาหกรรม และเรียกเก็บเงิน ค่าคุ้มครองให้นายตำรวจโดยกล่าวอ้างว่าเป็นลูกน้องดาบนุ อีกด้วย
พล.ต.ต.บุณยวัต เกิดกล่ำ ผบก.ภ.จว.ลำพูน ได้สั่งการให้ชุดสืบสวน สภ.นิคมอุตสาหกรรม จังหวัดลำพูน ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบ ดำเนินการสืบสวน ตรวจสอบ เพื่อพิสูจน์ทราบชายที่มีลักษณะดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.นิคมจึงได้ลงพื้นที่สืบสวนหาข้อมูลก็พบว่า มีชายหัวเกรียนเดินสายเก็บส่วยเรียกรับเงินจริง แต่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยที่ทำงานเป็นยามในโรงงานย่านนิคมอุตสาหกรรมเท่านั้น จากการสอบถามรายละเอียดจากผู้ประกอบการ ฯ ในเขตนิคม ฯ ทราบว่า มีการแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบจริง และจากการสืบสวนทราบว่าชายคนดังกล่าว ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือทหาร หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐแต่อย่างใด เป็นเพียงผู้ที่ชอบแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจภาค 5, เจ้าหน้าที่ปกครอง และบางครั้งจะอ้างว่าเป็นลูกน้องของนายตำรวจระดับใหญ่ของภาค 5 เพื่อขอรับการสนับสนุนเงินจากร้านอาหาร ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบชื่อ สกุล จริงของผู้แอบอ้างแล้ว
พร้อมได้แนะนำให้ผู้ประกอบการร้านอาหาร ที่เคยถูกเรียกผลประโชน์ เบ่งกินฟรี ขู่บังคับให้ใส่ซองงานบุญ และถูกแอบอ้างอ้างเก็บส่วยให้ผู้หลักผู้ใหญ่ มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน  2 ราย ได้เข้าแจ้งความ กับพ.ต.ท.บวรรชฏ  มายะลา สว.สอบสวน สภ.นิคมอุตสาหกรรม ลำพูน พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหานายเอก
ซึ่งผู้ต้องหาให้การภาคเสธ ทุกข้อกล่าวหาว่าไม่ได้แอบอ้างเป็นตำรวจ เพียงแต่เข้าไปใช้บริการจริงและก็จ่ายเงินทุกครั้ง มีเพียงร้านลาบลุงชัยเท่านั้นที่ไปกินลาบและเครื่องดื่มรวใเป็นเงิน 1400 บาท และร้านลาบขาวผ่องหลังตลาดจาวเหนือ เป็นเงินจำนวน 399 บาท ที่ไม่ได้จ่าย หังการสอบสวนผู้ต้องหามีความประสงค์จะเดินทางไปกราบขอโทษผู้ประกอบการ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงนำรถไปส่งให้ตามความประสงค์ก่อนจะปล่อยตัวไปเพื่อนนัดให้ไปขึ้นศาลตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

(สงวนลิขสิทธิ์ภาพและเนื้อหาข่าวทั้งหมด)


ทีมข่าวสังคมรายงาน

(หมายเหตุ การนำเสนอภาพข่าว เป็นการนำเสนอไปตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเท่านั้นมิได้มีเจตนาทำให้ใครหรือผู้หนึ่งผู้ใดได้รับความเสียหายแต่อย่างใด และเป็นการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนในการรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่เท่านั้น)