ผัวทะเลาะเมียลูกชายเข้าไปต่อว่าพ่ออยู่ในอาการเมาโมโหใช้ปืนยิงลูกชายและลูกสะใภ้ขณะที่กำลังขี่จยย.กลับบ้านบาดเจ็บ 2 ราย
ผัวทะเลาะเมียลูกชายเข้าไปต่อว่าพ่ออยู่ในอาการเมาโมโหใช้ปืนยิงลูกชายและลูกสะใภ้ขณะที่กำลังขี่จยย.กลับบ้านบาดเจ็บ 2 ราย
จากกรณีเมื่อเวลา 21.40 น. วันที่ 3 ก.ค.2565 ร.ต.อ.เดชาวัตร สมแก้ว รองสว.(สอบสวน) สภ.บ้านโฮ่ง อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 รายที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมูที่ 13 ต.ป่าพลู อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน จึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยชุดสืบสวนและจนท.สายตรวจ เมื่อไปถึงผู้ได้รับบาดเจ็บญาตินำส่งรพ.บ้านโฮ่งแล้วคือนายธนัฐชัย ใจแก้ว อายุ 27ปี ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณช่วงต้นแขนซ้ายและสบักหลังซ้าบ และน.ส.เอ (นามสมมุติ)อายุ21ปีแฟนสาวของคนเจ็บ มีบาดแผลที่บริเวณเปลือกตาด้านขวา ต้นแขนและข้อศอกซ้าย และแพทย์ทำการรักษาบาดแผลและได้นำเอาวัตถุบางอย่างซึ่งไม่ใช่ลูกตะกั่ว(ม่ใช่ลูกปืน)ออกมาจากบาดแผลของผู้ได้รับบาดเจ็บ
ส่วนผู้ก่อเหตุคือนายโยดา ใจแก้ว อายุ 47 ปี ซึ่งเป็นพ่อแท้ๆของนายธนัฐชัย หลังก่อเหตุได้ออกจากบ้านไปจากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุนายโยดาได้ดื่มสุราและคาดว่าอยู่ในอาการมึนเมาอื่นๆด้วย ได้ทะเลาะกับภรรยา จนกระทั่งนายธนัฐชัยคนเจ็บไปซื้อผัดไทยมาให้และได้เข้าไปพูดคุยกับผู้ก่อเหตุว่าอย่าทำแบบนี้แต่เรื่องเกิดบานปลายและเกิดการทะเลาะกันระหว่างพ่อและลูกจนพ่อถึงขั้นว่าลูกว่าเป็นสุนัขทำให้บานปลายจนเกือบจะชกกันจนแม่ของนายธนัฐชัยเข้ามาห้ามและขอร้องให้ลูกชายและแฟนสาวกลับบ้านไปก่อนและระหว่างที่นายธนัฐชัยกับแฟนสาวกำลังขี่จยย.ออกจากบ้านไปได้ประมาณ 15 เมตรเพื่อที่จะกลับบ้านแต่นายโยดาก็เดินออกตามไปและใช้ปืนแก๊ปยิงไป 1 นัดจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บญาติจึงนำทั้งคู่ส่งรพ.บ้านโฮ่งและแจ้งตำรวจดังกล่าว
และล่าสุดเช้าวันนี้(4ก.ค.65)จนท.ชุดสืบสวนสภ.บ้านโฮ่งได้เข้าไปนำตัวผู้ก่อเหตุขณะที่กำลังนอนอยู่ที่บ้านพร้อมนำตัวมาสอบสวนและเบื้องต้นจากการตรวจปัสสาวะพบว่าผลเป็นบวก(ฉี่ม่วง)จนท.จึงต้องส่งตรวจอย่างละเอียดอีกครั้งและขณะนี้จนท.กำลังอยูระหว่างการสอบสวน และล่าสุดมีการเจรจากันโดยลูกชายจะไม่ขอเอาเรื่องพ่อ แต่จนท.จำเป็นที่จะต้องดำเนินคดีในเรื่องเสพยาและพรบ.อาวุธปืนส่วนข้อหาอื่นๆต้องรอผลการสอบสวน ส่วนกรณีบาดแผลของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บนั้นไม่ชัดว่าเกิดจากการที่ใช้กระสุนปืนชนิดอื่นหรือไม่ หรืออาจจะเกิดจากกระสุนกระทบลงพื้นแล้วทำให้เศษหินกระเด็นใส่จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนสาเหตุที่แท้จริงอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 9.00 น.วันที่ 4 ก.ค. 65 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุพบกับนางพัชรินทร์(ขอสงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี ภรรยาของผู้ก่อเหตุและเป็นแม่ของผู้ได้รับบาดเจ็บ พร้อมนำผู้สื่อข่าวไปดูจุดที่ทั้งคู่ทะเลาะกันซึ่งอยู่บริเวณหน้าห้องนอน จุดที่ผู้ก่อเหตุยิงปืนใส่ลุกชาย และจุดที่ลูกชายถูกยิงซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่ยิงประมาณ 15 เมตร พร้อมเปิดเผยว่าเมื่อวานสามีดื่มเหล้าจนเมาและมาหาเรื่องทะเลาะกับตนเอง เรื่องหึงหวงจนกระทั่งลูกชายกลับมาและซื้อผัดไทยมาฝากจึงได้เข้าไปพยามพูดกับผู้ก่อเหตุแต่เกิดการทะเลาะกันและด่าทอกันตนจึงเข้าไปห้ามและขอให้ลูกชายขี่จยย.กลับบ้านไปกับแฟนก่อนก่อนเพราะกลัวว่าเรื่องจะบานปลายแต่ปรากฏว่าขณะที่ลูกชายขี่จยย.ออกจากบ้านไปประมาณ 15 เมตรผู้ก่อเหตุก็คว้าปืนแก๊ปที่อยู่ในห้องยิงไปหนึ่งนัดจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
ด้านนายลุ้ย หวันฮ้อ อายุ 63 ปี พ่อตาของผู้ก่อเหตุเปิดเผยว่าลูกเขยเคยถูกจับในคดีเสพยาเสพติด และมักชอบดื่มสุรา เมื่อสองวันก่อนได้เข้าป่าไม่รู้ว่าไปยุ่งกับอะไรบางอย่างหรือไม่จนช่วงเกิดเหตุได้ดื่มสุราเข้าไปจนเมาและเกิดระแวงว่าภรรยาจะปันใจให้คนอื่นจึงเกิดการทะเลาะกันจนหลานชายเข้ามาจึงเข้าไปพูดคุยกับคนก่อเหตุว่าอย่าทำแบบนี้แต่เรื่องเกิดบานปลายดังกล่าว ทั้งนี้ที่ผ่านมาลูกสาวตนเองถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายแล้วหลายครั้งจนบางครั้งถึงขึ้นโรงพักก็มี และส่วนใหญ่เมื่อเขาเมาเขาก็จะคิดว่าลูกสาวตนปันใจให้คนอื่นตนพยามขอให้ผู้ก่อเหตุเลิกกับลูกสาวหลายครั้งแต่เขาไม่ยอม จึงต้องทนอยู่กันไปจนเกิดเหตุดังกล่าว