ไขข้อข้องใจชาวโซเซี่ยลลำพูน กรณีกระบะขับรถปาดหน้ารถฉุกเฉินโรงพยาบาลบ้านโฮ่ง อาจจะเป็นหนังคนละม้วน ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง
ไขข้อข้องใจชาวโซเซี่ยลลำพูน กรณีกระบะขับรถปาดหน้ารถฉุกเฉินโรงพยาบาลบ้านโฮ่ง อาจจะเป็นหนังคนละม้วน ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง
วันที่ 29 มกราคม 2565 ความคืบหน้าจากกรณีที่มีผู้ใช้ชื่อเฟสบุ๊กว่า Kanong Thanomsat ได้ทำการโพสต์ข้อความว่า ขอความกรุณาผู้ใช้รถใช้ถนน ขอให้เคารพกฎจราจรหน่อย นี่คุณขับรถปาดไปปาดมาต่อหน้ารถส่งคนไข้ฉุกเฉินของโรงพยาบาลนะครับ ดีที่ไม่เกิดอุบัติเหตุ….รถเรายังต้องใช้ส่งผู้ป่วยอีกหลายราย
นอกจากข้อความดังกล่าวแล้วยังมมีการโพสต์คลิปวีดีโอ จำนวน 3 คลิป ซึ่งจากการบรรยายของผู้ถ่ายคลิป ซึ่งเป็นผู้หญิง คาดว่าเป็นเจ้าหน้าที่กู้ชีพและพยาบาล ซึ่งเป็นผู้หญิงสองคนและคนขับรถเป็นผู้ชายหนึ่งคน ซึ่งฟังเสียงจากคลิปแล้วมีลักษณะต่อว่า ในกรณีที่มีรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน กษ 1598 เชียงใหม่ ขับปาดหน้า เสมือนหนึ่งว่ารถพยาบาลกำลังไปส่งคนไข้ แต่ชายคนดังกล่าวที่ขับรถกระบะตามคลิปวีดีโอได้มีการขับรถยนต์คันดังกล่าวปาดไปมา เหตุเกิดถนนลำพูนลี้ อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูนเมื่อกลางดึกวันที่ 24 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา หลังมีการเผยแพร่ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ มีชาวเน็ตจำนวนมากต่อว่าต่อขานและตำหนิคนที่ขับรถกระบะคันดังกล่าวในทางเสียหายต่างๆนาๆ จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง จนกระทั่งผู้สื่อข่าวสำนักข่าวต่างๆได้ติดตามเรื่องนี้เพื่อนำเสนอข่าวอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสอบถามส่วนที่เกี่ยวข้อง แต่ได้รับข้อมูลมาเพียงด้านเดียว เพราะชายคนที่ขับรถกระบะคันดังกล่าวไม่ยอมให้สัมภาษณ์ จึงเป็นข้อมูลด้านเดียว ซึ่งอาจจะไม่เป็นธรรมนักสำหรับผู้ถูกกล่าวหาแม้ว่าจะมีภาพคลิปวีดีโอตามที่โพสต์ก็ตาม ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวต่างๆได้ติดตามไปสอบถามเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องแต่ก้ได้ข้อมูลมาเพียงบางส่วนเท่านั้น แต่ยังไม่ครบถ้วนแต่ก็มีการนำเสนอข่าวไปตามที่ทราบกัน หลังเป็นข่าวมีการตั้งค่าปิดการมองเห็นโพสต์ดังกล่าว ก่อนที่จะเปิดเป็นสาธารณะอีกครั้งในวันที่ 29 มกราคม
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวานนี้ ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่อีกครั้งเพื่อหาข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไรกันแน่ ในเบื้องต้นผู้สื่อข่าวได้สอบถาม พ.ต.อ.วิชา กันทาสุข ผกก.สภ.ป่าซาง ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่า หลังเป็นข่าวและหลังจากที่คนขับรถของโรงพยาบาลบ้านโฮ่งได้มาลงบันทึกประจำวัน กับ ร.ต.อ.วรวรรธน์ วิธี รองสารวัตรสอบสวน สภ.ป่าซาง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบทะเบียนรถและทราบชื่อเจ้าของและผู้ขับขี่แล้วและมีการเชิญตัวมาพบพนักงานสอบสวนเป็นที่เรียบร้อย และเตรียมเปรียบเทียบปรับตามกหมาย ในข้อหาขับรถประมาทหวาดเสียว อันเกรงว่าจะเกิดอันตรายใดๆต่อเพื่อนร่วมทาง ซึ่งผู้ขับขี่รับทราบและบอกกับเจ้าหน้าที่ว่าตนเองไม่ได้เมา เพียงแต่โมโหที่รถตู้คันดังกล่าวไม่ให้ตนเองขับแซง นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ติดต่อไปขอโทษเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลบ้านโฮ่ง และเจ้าหน้าที่ต้องเรียกคนขับทั้งสองฝ่ายมาสอบสวนอีกครั้ง แต่ผ่านไปสองวันทั้งสองคนยังไม่ติดต่อกลับมาหาเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยคนขับรถกระบะก็บอกว่าปล่อยให้จบๆกันไป ส่วนคนขับรถโรงพยาบาลบ้านโฮ่งก็อ้างว่า ผู้บังคับบัญชาไม่ให้ไป ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอึดอัดยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้
ในเมื่อข้อมูลยังไม่กระจ่างชัดเจนผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ตรวจสอบหาข้อมูลเพิ่มเติม โดยเริ่มจากการตรวจสอบข้อมูลทะเบียนรถผู้ครอบครอง และผู้ขับขี่ในวันเกิดเหตุ รวมถึงกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆและจากแหล่งข่าว ก็ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่าชายคนที่ขับรถกระบะคันดังกล่าวมีบ้านพักอยู่เขตตำบลนครเจดีย์ และเคยลงสมัครนักการเมืองท้องถิ่นทีมหนึ่ง มีชื่อเล่นว่า ต.(นามสมมุติ) มีชื่อจริง ว่า วชร.(นามสมมุติ ของสวงนชื่อสกุลจริง) ทำงานที่หน่วยงานราชการและสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง ผู้สื่อข่าวจึงค้นหาเบอร์โทรศัพท์เพื่อติดต่อสอบถาม ซึ่งในเบื้องต้นนาย ต.(นามสมมุติ) ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าไม่อยากให้ข้อมูลใดๆเนื่องจากอยากจะให้จบๆกันไป และตนก็ได้เดินทางไปพบผู้บริหารของโรงพยาบาลมาแล้วจึงอยากให้ยุติแค่นี้ แต่ก็ได้แต่บ่นน้อยใจกับผู้สื่อข่าวเรื่องคลิปที่นำไปเผยแพร่ว่าเป็นข้อมูลด้านเดียว ทำไมไม่ลงตั้งแต่ตอนเกิดเหตุจะได้รู้ว่าใครผิดใครถูก ใครเบียดใครแล้วใครแซงใคร แล้วใครไม่ให้แซง ทั้งๆที่ในวันเกิดเหตุรถพยาบาลคันดังกล่าวอยู่ระหว่างการขับกลับโรงพยาบาลโดยไม่ได้มีคนไข้แต่อย่างใด จะมาอ้างว่าไปส่งคนไข้ไม่ได้ เพราะเป็นขากลับจากส่งคยไข้ไปที่โรงพยาบาลลำพูน แล้วขับกลับโรงพยาบาลบ้านโฮ่ง ที่สำคัญไม่ได้มีการเปิดไฟฉุกเฉินแต่อย่างใด เพราะไม่มีคนไข้แล้ว ก็อยากให้จบๆกันไปแค่นี้ คนขับรถกระบะกล่าว
ผู้สื่อข่าวสอบถามแหล่งข่าวรายหนึ่ง(ไม่ขอเปิดเผยชื่อ) ได้พูดคุยกับผู้สื่อข่าวในทำนองอารมณ์เดือดว่า ไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดเพราะไม่รู้จักทั้งสองฝ่าย แต่ตาคิดแบบไม่อคติและให้ความเป็นธรรมต้องบอกว่า การที่เป็นรถฉุกเฉินต้องเปิดไฟฉุกเฉินและต้องมีคนป่วยในรถจึงเรียกว่าฉุกเฉิน แต่การขับขี่ขากลับไม่ใช่ฉุกเฉินจึงไม่เปิดไฟ ก็สมควรที่จะขับขี่มาแบบชาวบ้านธรรมดา ไม่ใช่ว่าเป็นรถฉุกเฉินของโรงพยาบาลจะยิ่งใหญ่ใครขวางไม่ได้ตลอดเวลา ถ้ามีคนไข้คนเจ็บในรถและเปิดไฟฉุกเฉินถ้ามาขวางมาปาดหน้าแบบนี้ด่าได้ แต่ลักษณะแบบนี้ดูเหมือนจะไม่เป้นธรรมกับเพื่อนร่วมทาง อย่าคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่ เจ็บมากี่รายตายมากี่คนสูญเสียมากี่ครั้งก็เพราะคิดแบบนี้ อย่าคิดว่านั่งในรถพยาบาลแล้วจะฉุกเฉินตลอดจะเป็นVIP ตลอกเวลาหรืออย่างไร ใครขวางนิดขวางหน่อยไม่ได้แบบนี้เหรอ ก็รถที่พวกท่านนั่งกันอยู่ยั้นซื้อมาจากเงินภาษีของประชาชนไม่ใช่หรือ เดี๋ยวนี้โลกไปถึงไหนแล้ว คงมีคนโง่เพียงไม่กี่คนที่จะขับปาดขับขวางรถพยาบาลแค่เห็นไฟวาปๆได้ยินเสียงเขาก็หลบก็หลีกทางให้แล้ว ถ้ามีคนหลงยุคก็สมควรโดนด่าสมควรที่สังคมจะด่าและวิพากษ์วิจารณ์ แต่นี่มันขากลับไม่ใช่หรือ คุณจะฉุกเฉินขนาดไม่ให้ประชาชนเพื่อนร่สมทางแซงเชียวหรือ มันไม่เห้นแก่ตัวมากไปหรืออย่างไร จะรีบไปทำงานต่อหรือจะรีบไป..ย กัน ใช้รถหลวงก็ขอให้สำเหนียก ประชาชนก็ควรรู้ว่ารถพยาบาลจริงๆเขาเปิดไฟมาเปิดเสียงมาก็ต้องรีบให้ทาง แหล่งข่าวกล่าวอย่างมีอารมณ์