ผู้ป่วยโควิด ฯ ลำพูนยอดยังพุ่ง พบคัสเตอร์ใหม่ ตำรวจร่วมสังสรรค์เพื่อนตำรวจเกษียณยังปกปิดไทม์ไลน์
ผู้ป่วยโควิด ฯ ลำพูนยอดยังพุ่ง พบคัสเตอร์ใหม่ ตำรวจร่วมสังสรรค์เพื่อนตำรวจเกษียณยังปกปิดไทม์ไลน์
วันที่ 2 ตุลาคม 2564 สถานการณ์ผู้ป่วยโควิด 19 ในพื้นที่จังหวัดลำพูน ยังคงพุ่งไม่หยุด วันนี้พบผู้ป่วยจำนวน 43 ราย โดยแยกเป็นผู้ป่วยภายในจังหวัด 42 ราย ผู้ป่วยจากโครงการรับคนลำพูนกลับบ้าน 1 ราย รวม 43 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมของจังหวัดลำพูน อยู่ที่ 2,209 ราย รักษาหายแล้ว 1,681 ราย ยังรักษาตัวอยู่ 512 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 16 ราย จากจำนวนการตรวจหาเชื้อกลุ่มเสี่ยง 6,999 ราย โดยแยกผู้ป่วยรายอำเภอได้แก่ อำเภอเมืองลำพูน 1,078 ราย อำเภอบ้านโฮ่ง 371 ราย อำเภอลี้ 79 ราย อำเภอป่าซาง 75 ราย อำเภอบ้านธิ 47 ราย อำเภอแม่ทา 43 ราย อำเภอเวียงหนองล่อง 41 รายและอำเภอทุ่งหัวช้าง 6 ราย
คัสเตอร์สำคัญได้แก่คัสเตอร์โกดังหอมบ้านห้วยหละ มีผู้ติดเชื้อถึงวันนี้ 295 ราย และยังมีคัสเตอร์ใหม่ที่มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆได้แก่ คัสเตอร์โรงเชือดหมูของหมูอินเตอร์ เขตตำบลมะเขือแจ้ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน พบผู้ติดเชื้อแล้ว 23 ราย ส่วนมากเป็นแรงงานต่างด้าว และคัสเตอร์โรงงานหมูปิ้ง คุณนุช ตำบลป่าสัก อำเภอเมือง พบผู้ติดเชื้อและจำนวน 13 ราย
นอกจากนั้นยังพบว่ามีคัสเตอร์สถานีตำรวจ สภ.นิคมอุตสาหกรรม ภาคเหนือ จังหวัดลำพูน ที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจติดเชื้อแล้วจำนวน 4 ราย ซึ่งทั้งหมดได้รับการยืนยันติดเชื้อจากการที่เข้าร่วมกินข้าวเลี้ยงสังสรรค์กันภายใน บริเวณใต้ถุนแฟลตตำรวจข้าง สถานีตำรวจเมื่อช่วงค่ำวันที่ 23 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา แม้ว่าผู้บังคับบัญชาจะบอกว่าไม่ทราบเรื่องแต่ได้รับการยืนยันจากนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร และระดับชั้นประทวนยอมรับว่ามีการกินเลี้ยงสังสรรค์กันจริงในวันดังกล่าว นอกจากนั้นยังมีตำรวจบางนายเข้าร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์กับเพื่อนๆที่ร้านลาบแห่งหนึ่งใกล้กับโค้งบ้านแจ่ม เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งมีเจ้าของร้านตรวจพบเชื้อโควิค เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2564 และภรรยามีอาการไข้ถูกนำตัวไปตรวจอาการที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในช่วงสายวันที่ 2 ตุลาคม 2564 แต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นิคมอุตสาหกรรมลำพูน ได้ให้ความร่วมมือในการกักตัวและปฏิบัติตามคำแนะนำในการกักตัวและให้ความร่วมมือในการตรวจหาเชื้อครบทุกคน
ซึ่งคัสเตอร์ของ สภ.นิคมอุตสาหกรรม ลำพูน นั้นได้สร้างความหนักใจและอึดอัดใจให้กับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ เป็นอย่างมาก เพราะมีการบอกไทม์ไลน์ไม่ครบถ้วน ไม่ยอมบอกไทม์ไลน์การร่วมวงสังสรรค์กัน ซึ่งถือว่าเป็นการปกปิดข้อมูลการสอบสวนโรค ซึ่งผู้สื่อข่าวจะได้เกาะติดข้อมูลต่างๆเพื่อความกระจ่าง ในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่คณะกรรมการควบคุมโรคต้องไม่เลือกปฏิบัติหรือละเว้นหรือหาเหตุบิดเบือนข้อมูล ข้าราชการต้องเป็นตัวอย่างในแนวทางปฏิบัติให้ประชาชนได้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งข้อเท็จจริงจะได้ตรวจสอบกันต่อไป