จีนไม่มี ฝรั่งไม่มา โอกาสท่องเที่ยวของคนไทย เรื่องเล่า “นักข่าวบ้านนอก”โดย “ชัด ราชวงษ์”
จีนไม่มี ฝรั่งไม่มา โอกาสท่องเที่ยวของคนไทย เรื่องเล่า “นักข่าวบ้านนอก”โดย “ชัด ราชวงษ์”
ผมมีโอกาสเดินทางไปตามสถานที่ท่องเที่ยว แทบจะทุกเดือน เพราะมีภารกิจในฐานะคณะกรรมการของสมาคมนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย (สนพท.)ในการประชุมประจำเดือนสัญจร ซึ่งจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปตามจังหวัดต่างๆ นอกจากประชุมประจำเดือนตามกฎข้อบังคับของสมาคมฯแล้ว ยังมีจุดประสงค์เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์กับสมาชิกที่อยู่ตามจังหวัดต่างๆหรือใกล้เคียง สถานที่ประชุม เพื่อที่จะได้มีโอกาสพบเจอแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน สร้างความสัมพันธ์อันดีต่อกัน รวมถึงเชิญชวนเพื่อนๆสื่อมวลชนในพื้นที่มาเป็นสมาชิกอีกด้วย การประชุมประจำเดือนมีความจำเป็น ในการขับเคลื่อนองค์กร
นอกเหนือจากการประชุม การได้พบปะสังสรรค์กัน การได้พักผ่อนตามสถานที่ต่างๆแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ ก็เป็นผลพลอยได้กำไรชีวิต หลังเสร็จประชุม ก็คือโอกาสที่จะได้พักผ่อน ดื่มด่ำกับชีวิต แบบแวบๆ แม้จะใช้เวลาไม่นานนัก ก็ถือว่าคุ้มค่า ในการเดินทาง หากเรารอให้พร้อม รอให้มีเงิน มัวแต่ทำงานเพื่อเก็บเงินให้พอแล้วค่อยไปเที่ยว คงไม่มีโอกาส เหมือนคำที่เขาว่า “อย่ารอจนแก่แล้วค่อยไปเที่ยว คุณอาจทำได้แค่ลุกไปเยี่ยว แล้วกลับมารอในรถก็ได้ รวยน้อยหน่อยไม่เป็นรัย ขอให้เห็นโลกเยอะหน่อยก็แล้วกัน” อะไรประมาณนี้
ยิ่งช่วงนี้ถือว่าเป็นโอกาสของคนไทยที่จะได้เที่ยวอย่างสบายใจสบายตา ได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติ เก็บเกี่ยวความสุขได้เต็มที่ เพราะ นักท่องเที่ยว “จีนไม่มี ฝรั่งไม่มา” แหล่งท่องเที่ยวจึงดูสะอาดตาห้องน้ำห้องท่าสาธารณะก็จะสะอาดกว่าปกติ โรงแรมที่เคยตั้งราคาแสนแพง ตั้งราคาไว้สูงลิบลิ่วทำให้นักท่องเที่ยวคนไทยส่วนหนึ่ง ที่ได้แต่ยืนมองแล้วกลืนน้ำลาย เพราะเอื้อมไม่ถึง แต่ถึงแม้ว่าจะมีเงินมีฐานะเพียงพอ ก็คงไม่อยากจะพัก ในราคาที่คนไทยคิดว่าโหดเกิน ในวันที่ไร้เงานักท่องเที่ยว คนไทยได้พักโรงแรมและรีสอร์ทที่พากันลดราคาลงมา เพื่อความอยู่รอด ต้องประคองธุรกิจให้อยู่รอด แม้หลายแห่งจะจำยอมที่จะปิดตัวเองลงไปก็ตาม ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าที่ผ่านมานักท่องเที่ยวส่วนหนึ่งที่เดินทางเข้าไปในแหล่งท่องเที่ยวแล้วทำลายแหล่งท่องเที่ยว สร้างความสกปรกให้สถานที่ต่างๆไม่น้อย ธรรมธรรมชาติถูกทำลายไปไม่น้อย ทำให้คนไทยรู้สึกอึดอัดไม่น้อย ที่ต้องพยายามทำใจเมื่อเจอนักท่องเที่ยวคุณภาพต่ำ สถานการณ์โควิค 19 ไวรัสโคโรน่า ได้กำจัดสิ่งเหล่านั้นให้โดยอัตโนมัติ
ในวันนี้วันที่เห็นนักท่องเที่ยวคนไทยหนาตาขึ้น ตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆของทุกภาค โดยเฉพาะตามชายหาดริมทะเล ได้เห็นรอยยิ้มของคนไทยเต็มที่ แม้ว่าสถานการณ์โควิค 19 จะยังไม่น่าไว้วางใจมากนัก แต่ทุกคนพร้อมใจกันทิ้งระยะห่าง พร้อมใจกันปิดพรางใบหน้าด้วยผ้าแมส แม้จะมีบางคนที่ไม่รู้ร้อนรู้หนาวไม่สนโลกหลงเหลืออยู่บ้าง แต่โดยภาพรวมถือว่าคนไทยให้ความร่วมมือ ในการป้องกันการแพร่ระบาดได้ดีในระดับหนึ่ง ก็ได้แต่หวังว่าวิกฤตินี้จะผ่านพ้นไปโดยเร็ว
ที่ผมได้ไปเที่ยวบ่อยๆหลังประชุมก็เพราะผู้ใหญ่ใจดีที่เมตตาผมเสมอมา โดยส่วนตัวผมปกติไม่ค่อย หรือแทบจะไม่เคยลงเล่นน้ำทะเลเลย ต่อให้ทะเลสวยงามแค่ไหนก็ตาม ถ้านักท่องเที่ยวมีปริมาณมาก ผมเชื่อว่าความสะอาดก็ลดลง ผมก็ทำได้แค่ไปยืนมองหรือนั่งรับลมทะเล ไปถ่ายรูป ไปนั่งกินอาหารทะเลแล้วก็กลับ ยกเว้นทะเทฝั่งอันดามันทางภาคใต้เท่านั้นที่ทะเลสวยแล้วก็สะอาด ตามความเข้าใจของผม ในครั้งนี้ผมไปประชุมที่เกาะล้าน จังหวัดชลบุรี ฝั่งอ่าวไทย ถือว่าเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ที่ผมลงเล่นน้ำทะเลอย่างสนุกสนาน ผมดำน้ำทะเลด้วยความสนิทใจ มั่นใจในเรื่องของความสะอาด เพราะทันทีที่เรือเทียบท่า ที่หาดสังวาลย์บนเกาะล้าน กวาดตามองไปรอบๆชายหาด ในใจผมก็รับรู้ได้ทันทีเลยว่าที่นี่ใช่เลย จึงไม่แปลกเลยที่หลังจากประชุมเสร็จ ผมไม่ได้สนใจเรื่องอาหารทะเลปิ้ง ย่าง ที่เตรียมไว้รอต้อนรับ เป้าหมายผมอยู่ที่ชายหาด พวกเราพากันขับมอเตอร์ไซค์ที่รีสอร์ทเตรียมไว้ให้ ขับไปจุดสวยๆถ่ายรูปแล้ว ตรงไปที่ชายหาด อย่างไม่รีรอ กว่าครึ่งชั่วโมงในยามเย็นๆที่พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า ได้เล่นน้ำทะเลแบบสบายใจ เพราะมีเพียงนักท่องเที่ยวคนไทย ที่ไม่หนาตามากนัก ทุกคนจึงแปลกใจมากที่เห็นผมเล่นน้ำทะเล ผมบอกเหตุผลง่ายๆคือน้ำทะเลที่หาดสังวาล บนเกาะล้าน ที่นี่น้ำสะอาด ทะเลสีเขียวออกฟ้าครามนิดๆ นอกจากได้ดื่มด่ำกับวิวที่สวยงามแล้ว ผมก็ได้ดื่มด่ำน้ำทะเลไปหลายอึก ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ชัด ราชวงษ์
26 ,มีนาคม 2564
โรงแรม ที่ปกติก่อนโควิค 19 ราคาอยู่ที่คืนละ 5,000 บาท ช่วงนี้ลดราคาเหลือคืนละ 1,000 บาท และหลายแห่งก็ลดราคาเช่นกัน
