ศรัทธาไม่เสื่อมคลายชาวพุทธทุกสารทิศ  ชนเผ่าและพื้นราบ ทั่วภาคเหนือ และประชาชาชนทั้งใกล้และไกล แห่ร่วมงานเปลี่ยนผ้าครองสรีระร่างศพครูบาอภิชัยขาวปี ครบรอบ 44 ปี คับคั่งล้นหลาม

ศรัทธาไม่เสื่อมคลายชาวพุทธทุกสารทิศ  ชนเผ่าและพื้นราบ ทั่วภาคเหนือ และประชาชาชนทั้งใกล้และไกล แห่ร่วมงานเปลี่ยนผ้าครองสรีระร่างศพครูบาอภิชัยขาวปี ครบรอบ 44 ปี คับคั่งล้นหลาม   ทั่งๆที่ทางวัดมิได้มีออกใบฎีกาบอกบอกบุญฯ  แต่อย่างใด เนื่องจากอยู่ในช่วงสถานกรณ์โควิด-19  ผู้มาร่วมงานต่างพูดกันเป็นเสียงเดียว ว่ามาด้วยศรัทธาที่มีต่อครูบาเจ้าอภิชัยขาวปี   

เมื่อวันที่ 3 มี.ค.64  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดพระพุทธบาทผาหนาม ต.ป่าไผ่ อ.ลี้ จ.ลำพูน  ได้จัดให้มีงานวันกตัญญูเปลี่ยนผ้าครองสรีระร่างศพครูบาอภิชัยขาวปี  ครบรอบปีที่ 44 ประจำปี 2564  โดยเป็นการจัดแบบเป็นการภายใน   ซึ่งต่างจากทุกปีที่ผ่านมา  ตามสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 โดยมีพระครูอินทวุฒิคุณ  เจ้าคณะอำเภอลี้  เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายวิวัฒน์  จันทร์โอภาส นายอำเภอลี้ เป็นประธานฆราวาส โดยมีชาวพุทธพี่น้องชนเผ่าปาปะเกอะญอ และประชาชนชาวพื้นราบในจังหวัดภาคเหนือตอนบน และใกล้ไกล  ร่วมงานครั้งนี้มากมายประมาณ5-6 พันคน  ผู้ที่มาร่วมงานต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าพวกตนมาร่วมงานวันนี้  ด้วยความศรัทธาเลื่อมใสที่มีต่อครูบาขาวปี ซึ่งได้มีการนับถือสืบทอด กันมาตั้งแต่ครั้งสมัยบรรพบุรุษ  จากการเปิดเผยขอพระครูสุนทรอรรถการ  หรือพระครูบาดอน  เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทผาหนาม  ประธานดำเนินการจัดงานดังกล่าว ได้เจริญพรว่า กิจกรรมในวันงานครั้งก็มีการถวายทานกองเจดีย์ทราย,การแห่ขบวนครัวทาน, การถวายสังฆทานพระสงฆ์พิธี 88 รูปเพื่ออุทิศส่วนกุศลไปให้ครูบาอภิชัยขาวปี  เท่ากับอายุของครูบาฯ  และเมื่อ เวลา14.00น. ก็ได้มีการ  เปลี่ยนผ้าครองสรีระร่างศพของครูบาขาวปี  ตามประประเพณีที่ได้เคยยึดถือปฏิบัติมา   ซึ่งการจัดงานครั้งนี้พระครูบาดอน ได้เจริญพรว่า ทางวัดไม่ได้มีการออกใบฎีกาบอกบุญเหมือนดังเช่นทุกปี เนื่องจากอยู่ในสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 โดยตั้งใจว่าต้องจัดแบบเป็นการภายใน แต่กระนั้นก็ตามก็ได้มีบรรดาพุทธศาสนิกชน และคณะสงฆ์ในจังหวัดทั่วภาคเหนือตอนบน และใกล้เคียง อาทิ  จ.สุโขทัย จ.แม่ฮ่องสอน จ.ตาก ฯลฯ ต่างก็ได้มาร่วมงานด้วยความศรัทธาอย่างแท้จริงซึ่งอาตมาขอขอบคุณอนุมาทนาบุญ ในครั้งนี้ มาณ ที่นี้โดยทั่วกัน

ครูบาเจ้าอภิชัยขาวปีเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ เดิมชื่อ จำปี  เกิดในครอบครัวของผู้ที่มีฐานะยากจน บ้านแม่ตืน อ.ลี้   เมื่ออายุ 16 ปี  มารดาได้นำไปฝากเป็นลูกศิษย์ของพระครูบาศริวิชัย ซึ่งพระครูบาศริวิชัย ได้ทำการบรรพชาให้เป็นสามเณร จนอายุครบ 22 ปี ครูบาศริวิชัยก็ได้ทำการอุปสมบทให้เป็น พระภิกษุ ท่านได้ปฏิบัติธรรมเดินตามรอยทางของพระครูบาศริวิชัย  ผู้เป็นพระอาจารย์  ถึงกับมีชาวบ้านพูดกันว่าพระครูบาศรีวิชัยสร้างวัด  แต่ครูบาศรีวิชัยสร้างโรงเรียน  โดยได้สร้างคุณประโยชน์ให้แก่ สังคมและพระพุทธศาสนาไว้อย่างมากมายได้แก่ในปี  พ.ศ.2497    เป็นประธานสร้าง รพ.ลำพูน  ด้วยงบประมาณในการสร้างจากชาวบ้านได้ร่วมทำบุญบริจาคให้ครูบาขาวปี เมื่อวันพ้นโทษจากเรือนจำจังหวัดลำพูน ในข้อหาหนีทหารเกณฑ์  โดยถูกขังคุกเป็นเวลานานถึง 6 เดือน

สร้างอาคารเรียนโรงเรียนประชาบาล ต่างๆ  ทั่วภาคเหนือโดยเฉพาะในเขตพื้นที่จังหวัดลำพูนและเชียงใหม่ จะสังเกตได้จากรูปวัว  ซึ่งรูปนักษัตรปีเกิดของครูบาขาวปี   ดังจะปรากฎจารึกติดไว้ตามหน้าจั่วอาคารเรียนที่ครูบาขาวปีได้เป็นผู้สร้างไว้ทุกแห่ง ดังที่ปรากฏให้เห็นมาจนกระทั่งถึงปัจจุบันในบางที่บางแห่ง ที่อาคารยังไม่ได้ถูกกรื้อ       นอกจากนี้ก็มีวัดวาอารามต่างๆ นับจำนวน มากกว่า100 วัด  ด้วยอานิสงส์แห่งการเป็นพระนักพัฒนา และรักษาศิลภาวนามาตลอดเมื่อครั้งยังมีชีวิต   แม้ท่าน จะมรณภาพไปแล้วนานถึง 44 ปี แต่สรีระสังขารของท่านก็ยังคงไม่มีการเน่าเปื่อยเป็นที่อัศจรรย์แก่ผู้พบเห็นเป็นยิ่งนักจนกระทั่งตราบถึงปัจจุบัน  ดังนั้นในวันเวลาดังกล่าวจึงของเชิญชวนทุกท่านได้ไปร่วมงานบุญดังกล่าวในครั้งนี้โดยทั่ว กัน.