ยังมืดมนไร้วี่แววเด็ก ม.5 แกะรอยตามกล้องวงจรปิด กดเงินตู้ ATM พบบัญชีธนาคารมีคนโอนเงินเข้าให้ทุกเดือน

ยังมืดมนไร้วี่แววเด็ก ม.5 แกะรอยตามกล้องวงจรปิด กดเงินตู้ ATM พบบัญชีธนาคารมีคนโอนเงินเข้าให้ทุกเดือน

ความคืบหน้าจากกรณีที่ช่วงเย็นวันที่ 15 ก.พ.64 ที่ผ่านมาตำรวจ สภ.เมืองลำพูน อ.เมือง จ.ลำพูนรับแจ้งว่าพบรถจยย. ฮอนด้า เวหสีแดง-ขาว หมายเลขทะเบียน 125 พะเยา จอดทิ้งไว้บริเวณใต้สะพานดำ ริมแม่น้ำกวาง ต.เหมืองหง่า อ.เมือง จ.ลำพูน สภาพปกติมีกระป๋าเป้นักเรียนและกุญแจรถวางอยู่ในตระกร้าหน้ารถและไม่ทราบว่าใครเป็นเจ้าของจึงนำไปเก็บรักษาไว้ที่ สภ.เมืองลำพูน ต่อมาได้รับข้อมูลว่ารถ จยย.คันดังกล่าวเป็นรถของนายวายุ ทะไร หรือน้องใหญ่ อายุ 17 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนจักรคำคณาทร โดยคาดว่าน้องใหญ่ได้ออกจากบ้านช่วง คืนวันที่ 14 ก.พ.64 ที่ผ่านมา โดยขาดการติดต่อกับญาติและเพื่อนๆ

และเมื่อวันที่ 16 ก.พ.64 นักประดาน้ำภาค 5 จำนวนกว่า 40 คน ได้นำทีมนักประดาน้ำลงปูพรมค้นหาในแม่น้ำกวง รวมถึงนำเรือค้นหาบริเวณโดยรอบในแม่น้ำกวง หรือสะพานดำ จุดใกล้กับที่น้องใหญ่จอดรถ จยย.ทิ้งไว้ เขต ต.เหมืองง่า อ.เมือง จ.ลำพูน ซึ่งเป็นจุดที่พบ รถ.จยย.ของน้องใหญ่จอดอยู่ ซึ่งวันนี้ได้มีทีมนักประดาน้ำภาค 5 เชียงใหม่ร่วม 40 นายลงพื้นที่ลงงมค้นหาที่ในแม่น้ำกวาง ร่วมกับหน่วยกู้ภัยชมรมกู้ภัยเฉพาะกิจลำพูน โดยมีนางธันย์ชนก  หายทุกข์ อายุ 45 ปี แม่ของน้องใหญ่ นายนิวัฒน์ ไววุฒิ อายุ 38 ปี ครูพละ โรงเรียนที่น้องใหญ่เรียนอยู่มาดูเหตุการณ์  ซึ่งนักประดาน้ำได้เริ่มลงงมค้นหาตั้งแค่เวลา 10.00น.จนถึงขณะนี้เวลา 15.30 น.กว่า 5 ชั่วโมงก็ยังไม่พบอะไร ซึ่งอุปสรรคที่นักประดาน้ำที่เจอก็คือผักตบชวาซึ่งหนาแน่นเต็มลำน้ำทำให้การดำน้ำและการค้นหาเป็นไปด้วยความลำบาก และยุติการค้นหาในที่สุด

ทางด้านการทำงานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองลำพูน นำโดย พ.ต.อ.ฐิติพล อรุณสกุล ผกก.สภ.เมืองลำพูน ได้ทำการแกะรอยจากกล้องวงจรปิด พบว่าเมื่อช่วงคืนวันที่ 14 ก.พ.-ช่วงเช้าวันที่ 15 ก.พ.64 เวลาประมาณ 04.00 น.น้องใหญ่ได้ขับรถจักรยานยนต์ผ่านบริเวณถนนในเขตชุมชนช่างฆ้อง ก่อนถึงสะพานดำ และจากการตรวจสอบการใช้โทรศัพท์ของน้องใหญ่ 2 หมายเลข พบว่าติดต่อกับบุคคลเพียงไม่กี่คน และคืนดังกล่าวมีการติดต่อกับคนชื่อ ไพรัตน์ ที่อยู่ จ.สุโขทัย ก่อนหายตัวไป แต่การตรวจสอบเชิงลึกพบว่าหมายเลขดังกล่าวเคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ จ.สุโขทัยเท่านั้นไม่ได้เดินทางมาจังหวัดลำพูน และติดต่อกับน้องใหญ่ไม่บ่อยมากนัก แต่ได้ติดต่อกับบุคคลอื่นที่อยู่จังหวัดอุตรดิตถ์มากกว่า นอกจากนั้นโทรศัพท์ของน้องใหญ่ยังมีผู้ที่ติดต่ออีก 2 หมายเลขซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดลำพูน ได้มีการนำทีมร่วมสืบสวนและตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ เช่นสถานีรถไฟ สถานีขนส่ง และจุดที่คาดว่าน้องใหญ่จะผ่านในช่วงเวลาดังกล่าว

นอกจากนั้นจากการตรวจสอบสมุดบัญชีธนาคารแห่งหนึ่งของน้องใหญ่ พบว่าบัญชีมีความเคลื่อนไหวทุกเดือน มีการโอนเงินเข้าบัญชีเดือนละประมาณ 3,000-4,000 บาท และมีการกดเงินออกไปทั้งหมดทุกครั้งที่มีเงินโอนเข้ามา ตรวจสอบข้อมูลทางญาติและแม่ของน้องใหญ่ยืนยันว่าไม่ได้โอนเงินให้ ซึ่งบัญชีที่มีผู้โอนเงินให้นี้เป็นบัญชีที่น่าสงสัยที่สุด ว่าบุคคลคนนี้เป็นใครซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นทางการเงินที่โอนเข้ามาให้น้องใหญ่   และตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามตู้ ATM  ในพื้นที่ต่างๆที่คาดว่าน้องใหญ่ไปกดเงินที่ไหนบ้าง

ด้านทางของญาติพี่น้องของน้องใหญ่ ยังมีความวิตกกังวนเพราะถ้าน้องยังมีชีวิตอยู่ทำไมจึงไม่ติดต่อกลับเพราะโทรศีพท์น้องก็เอาไปด้วยแต่ไม่เปิดเครื่องเลยยังไม่ทราบว่าอยู่จุดไหน เพราะหลังจากเป็นข่าวยังไร้วี่แววการติดต่อกลับของน้องใหญ่ ทำให้ยังเกิดความกังวนในบางเรื่อง ในสิ่งที่ไม่คาดคิด ทางด้านของเพื่อนๆของน้องใหญ่ทุกคนต่างพากันปิดปากเงียบไม่มีการให้ข้อมูลแต่อย่างใด ความคืบหน้าผู้สื่อข่าวจะรายงานให้ทราบต่อไป