ศรัทธาญาติโยมข้องใจพฤติกรรมเจ้าสำนักสงฆ์ แชทจีบหญิง ยืมเงินโยมนับแสนอ้างเอาไปสร้างวัด พบใบสุทธิถูกยกเลิก สุดท้ายยอมจำนนขอลี้ภัยออกจากสำนักสงฆ์ไปอยู่ที่อื่น

ศรัทธาญาติโยมข้องใจพฤติกรรมเจ้าสำนักสงฆ์ แชทจีบหญิง ยืมเงินโยมนับแสนอ้างเอาไปสร้างวัด พบใบสุทธิถูกยกเลิก สุดท้ายยอมจำนนขอลี้ภัยออกจากสำนักสงฆ์ไปอยู่ที่อื่น
เวลาประมาณ 11.00 น.วันที่ 10 มกราคม 2564 ที่ศาลาสำนักสงฆ์สันรอมหมี หมู่ที่ 19 ตำบลมะเขือแจ้ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ศรัทธาชาวบ้าน บ้านสันรอมหมี หมู่ที่ 19 ตำบลมะเขือแจ้ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน พร้อมด้วย นายอินสอน มีแจ้ กำนันตำบลมะเขือแจ้ นายไพฑูรย์ อุตตระพะยอม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 19 ตำบลมะเขือแจ้ และพระครูวีระ สิขะการ เจ้าคณะตำบลมะเขือแจ้ เขต 3
ได้ร่วมกันสอบสวนพระชราวุฒิ  อายุ 47 ปี เจ้าสำนักสงฆ์แสงฟ้า บ้านสันรอมหมี หลังเกิดข้อพิพาทกับชาวบ้านหลายเรื่อง ทั้งเรื่องการแชทจีบผู้หญิง รวมถึงตรวจสอบใบสุทธิ หรือหนังสือรับรองการเป็นพระสงฆ์ โดยใช้ข้อความว่า ว่าใดที่รักยังโกรธอยู่เหรอ,ใจเป็นกลาง ว่างก็ทักรักก่อโอเค และอีกหลายข้อความ

ซึ่งเป็นการประพฤติไม่เหมาะสมและชาวบ้านคาดว่ามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้หญิงอีกหลายคน ชาวบ้านเกรงจะทำให้เสื่อมเสีย รวมถึงเรื่องการที่ทางคณะสงฆ์เคยมีการสอบสวนมาแล้วครั้งหนึ่งว่าพระชราวุฒิ ถูกแจ้งยกเลิกใบสุทธิ กลายเป็นพระเถื่อนไม่มีรับรองการเป็นพระแต่ก็อ้างว่าไปบวชมาใหม่แล้ว แต่ยังใช้ใบสุทธิเดิม และเรื่องยืมเงินของหญิงสาวใกล้ชิดคนหนึ่งกว่าแสนบาท จนมีการแจ้งความที่ สภ.นิคมอุตสาหกรรม มาแล้วจนตกลงคืนเงินจำนวนหนึ่งไปในที่สุด
ซึ่งวันนี้ทางเจ้าคณะตำบลมะเขือแจ้ เขต 3 พร้อมด้วยคณะสงฆ์ได้ทำการสอบสวนสอบถามข้อมูลหลักฐานต่างๆ จากชาวบ้าน รวมถึงตรวจสอบสอบถามสถานะความเป็นพระ และทุกเรื่องที่ชาวบ้านข้องใจ โดยแยกสอบถามที่ละกลุ่ม ทั้งผู้นำชุมชน ชาวบ้านในพื้นที่ คู่กรณี รวมถึงชาวบ้านที่ยังศรัทธาเจ้าสำนักสงฆ์รูปนี้
ผลการสอบสวนพระชราวุฒิไม่มีเอกสารหลักฐานในการแสดงความบริสุทธิ์ใจ ทางคณะสงฆ์จึงเจรจาให้พระชราวุฒิออกไปจากสำนักสงฆ์ เพื่อเป็นการแก้ปัญหาไม่ให้ลุกลาม เพราะจะทำให้คณะสงฆ์มัวหมอง เสียชื่อเสียงในเขตตำบลที่รับผิดชอบ ซึ่งพระชราวุฒิได้ยินยอมที่จะออกไปจากพื้นที่ โดยขอเวลาเก็บข้าวของต่างๆและติดต่อวัดที่จะไปพัก โดยจะออกไปในวันพรุ่งนี้( 11 ม.ค.64 ) ทำให้ชาวบ้านพอใจก่อนจะแยกย้ายกันกลับในที่สุด