ตำรวจสืบป่าซางยังงมปมยิง “เอก ห้วยไฟ”ไม่เจอ รอผลDNA และเช็คระบบโทรศัพท์ ขณะที่ ตร.สืบฯใช้ภาษาดอกไม้กับนักข่าว

ตำรวจสืบป่าซางยังงมปมยิง “เอก ห้วยไฟ”ไม่เจอ รอผลDNA และเช็คระบบโทรศัพท์ ขณะที่ ตร.สืบฯใช้ภาษาดอกไม้กับนักข่าว

วันที่ 21 สิงหาคม 2563  ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้า คดีมือปืนควงลูกโม่ยิง เอก ห้วยไฟ เสียชีวิต จากกรณีที่เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 13 สิงหาคม 2563 ตำรวจ สภ.ป่าซาง จ.ลำพูนรับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนลูกโม่ ยิงนายเอกลักษณ์ ยะกาวิน หรือ “เอก ห้วยไฟ” อายุ 34 ปี นอนเสียชีวิตจมกองเลือดบริเวณเพิงพัก ภายในสวนมะม่วง เขตหมู่ที่ 6 ต.นครเจดีย์ อ.ป่าซาง จ.ลำพูน คมกระสุนฝังที่บริเวณใบหน้าและลำตัว 4 นัด นอกจากนี้ในที่เกิดเหตุยังพบหัวกระสุนสีเงินซึ่งคาดว่าพลาดเป้าตกอยู่อีก 2 นัด (รวมทั้งหมด 6 นัด)  และมีผู้มาพบศพในช่วงสายของวันที่ 14 ส.ค.63 ขณะนี้ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่แต่ยังไม่ทราบตัวคนร้ายที่ก่อเหตุและกำลังอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนและติดตามมือปืนที่ยิงนายเอกลักษณ์มาดำเนินคดี ส่วนศพนายเอกลักษณ์ได้ทำการฌาปนกิจไปแล้ว

ขณะเดียวกันที่ สภ.ป่าซาง อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ตำรวจชุดสืบสวนได้นำตัวผู้ต้องสงสัยหลายรายมาสอบสวน พร้อมทั้งอายัดรถ จยย.มาตรวจสอบ นอกจากนี้ยังได้อายัดปืนยาวมา 1 กระบอกตรวจสอบเบื้องต้นเป็นคนละชนิดกับปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ และขณะนี้ยังมีการสอบสวนผู้ต้องสงสัยอยู่ ส่วนประเด็นคาดว่าน่าจะมาจากที่ผู้ตายอาจจะไปติดหนี้หรือพัวพันกับเรื่องอะไรบางอย่างที่ยังเปิดเผยไม่ได้ นอกจากนั้นยังอาจจะเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของผู้เสียชีวิตอีกด้วย เนื่องจากชาวบ้านในพื้นที่จะทราบถึงพฤติกรรมส่วนตัวดี แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด

ในส่วนความคืบหน้าของคดี พ.ต.อ.วิชา กันทาสุข ผกก.สภ.ป่าซาง กล่าวกับ ผู้สื่อข่าว ที่ได้ติดตามสอบถามความคืบหน้าคดีทุกวันแต่ยังไม่มีความคืบหน้า เนื่องจากพื้นที่เกิดเหตุอยู่ห่างไกลบ้านและชุมชน ไม่มีพยานเห็นเหตุการณ์ ขณะนี้ทำได้เพียงนำตัวผู้ต้องสงสัย และคนใกล้ชิดของนายเอกลักษณ์มาสอบสวน แต่ก็ไม่ได้อะไรมากนัก เนื่องจากทุกคนไม่ให้ความร่วมมือกับตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเท่ากับว่างมเข็มต่อไป และต้องทำงานท่ามกลางความกดดัน ความหวังจะปิดคดีได้มีเพียงแค่ รอผลการตรวจ DNA และผลการตรวจสอบโทรศัพท์ที่ใช้ในการติดต่อเท่านั้น เพื่อจะทราบว่าก่อนถูกยิงเสียชีวิต ได้ติดต่อกับใครบ้าง เพื่อเป็นแนวทางในการเชื่อมโยงคดี

ขณะที่การตำงานระหว่างตำรวจกับผู้สื่อข่าว เริ่มมีรอยร้าว หลังจากที่วันก่อน ตำรวจชุดสืบสวนได้นำตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบสวน ผู้สื่อข่าวได้ไปเกาะติด และถ่ายภาพ ถูกตำรวจสืบสวนนายหนึ่งผลักไม่ให้ถ่ายภาพ พร้อมกับพุดด้วยถ้อยคำไม่สุภาพว่า มารบกวนการทำงานของตำรวจ พร้อมกับพูดว่า ไอ้..เ  ห… ต่อมาผู้สื่อข่าวได้แจ้งพฤติกรรมของตำรวจนายนี้ ทางวาจา ต่อ พ.ต.อ.วิชา กันทาสุข ผกก.และแจ้งว่าเตรียมนำคลิปเป็นหลักฐานและทำหนังสือร้องเรียนถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในครั้งนี้ ถึง พล.ต.ต.อนุชิต เนียวกุล ผบก.ตร.ภ.จว.ลำพูน อีกครั้ง และเตรียมส่งหนังสือถึง ผู้บังคับบัญชาระดับสูงตามระดับ เพื่อให้ดำเนินการกับนายตำรวจคนนี้ต่อไป